กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนิยมเปิดตัวนำหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากรีพับลิกัน 2 จุด หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยุติการรณรงค์หาเสียงและส่งไม้ต่อให้รองประธานาธิบดีหญิงรายนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส
เมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบเดน มีคะแนนนิยมตามหลังทรัมป์ อยู่ 2 จุด ก่อนหน้าที่เขาจะประกาศถอนตัวจากการชิงชัยในวันอาทิตย์ (21 ก.ค.)
รอยเตอร์ระบุว่า ผลสำรวจใหม่นี้จัดทำขึ้นในวันจันทร์ (22 ก.ค.) และวันอังคาร (23 ก.ค.) ตามหลังการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ที่ ทรัมป์ ตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่แล้ว (18 ก.ค.) และ ไบเดน แถลงในวันอาทิตย์ (21 ก.ค.) ขอถอนตัวจากการชิงชัย พร้อมกับให้การรับรองแฮร์ริส
ผลสำรวจที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส พบว่า แฮร์ริส มีคะแนนนิยมนำหน้า ทรัมป์ อยู่ 44% ต่อ 42% ในการสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในขณะที่ทีมหาเสียงของรองประธานาธิบดีรายนี้ เผยว่าเธอได้รับการสนับสนุนจากพวกตัวแทนพรรคเพียงพอจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครตแล้ว
แฮร์ริส และทรัมป์ เคยมีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 44% ในผลการสำรวจเมื่อวันที่ 15-16 กรกฎาคม และ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำหน้า 1 จุด ในผลการสำรวจระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม โทนี ฟาบริซิโอ นักทำโพลรายหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับทรัมป์ กลบกระแสความกังวลต่อโพลใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของแฮร์ริสกำลังเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าคะแนนนิยมของเธอจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว สืบเนื่องจากสื่อมวลชนในวงกว้างรายงานข่าวการเป็นแคนดิเดตคนใหม่ของรองประธานาธิบดีหญิงรายนี้
ในผลสำรวจ พบว่า 56% ของผู้ลงทะเบียนออกเสียงเลือกตั้ง เห็นด้วยที่ว่า แฮร์ริส วัย 59 ปี "มีความแหลมคมทางเชาวน์ปัญญาและสามารถจัดการความท้าทายต่างๆ ได้" ผิดกับ ทรัมป์ ในวัย 78 ปี ที่มีผู้คิดเห็นเช่นนั้นเพียง 49% ขณะที่ ไบเดน ถูกประเมินในทิศทางดังกล่าวแค่ 22%
ไบเดน วัย 81 ปี ยุติความพยายามกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ตามหลังศึกประชันวิสัยทัศน์ครั้งหายนะกับ ทรัมป์ ซึ่งบ่อยครั้งที่เขาแสดงให้เห็นถึงอาการตะกุกตะกัก และล้มเหลวในการรับโจมตีรุกไล่โดย ทรัมป์
ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเดโมแครตราว 3 ใน 4 บอกว่าพวกเขาเห็นด้วยกับถ้อยแถลงหนึ่ง ที่เรียกร้องให้ทั้งพรรคและผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งหันมาหนุนหลัง แฮร์ริส เดี๋ยวนี้เลย มีเพียง 25% เท่านั้นที่บอกว่าควรมีแคดิเดตหลายคนเข้าชิงเป็นตัวแทนพรรค
แฮร์ริส กำลังหาเสียงในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิที่มีความสำคัญยิ่ง ในวันอังคาร (23 ก.ค.) เธอได้รับการสนับสนุนจากสำคัญๆภายในพรรค และนับตั้งแต่นั้นความน่าสนใจได้มุ่งสู่ประเด็นที่ว่าเธอจะเลือกใครมาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี
ผู้ตอบแบบสอบถามหลายคนในผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ยอมรับว่าพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบุคคลในพรรคเดโมแครตที่จะก้าวมาเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีของแฮร์ริส
(ที่มา : รอยเตอร์)