โดนัลด์ ทรัมป์ เลือก เจ.ดี.แวนซ์ ส.ว.รีพับลิกันจากโอไฮโอ เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีในวันจันทร์ (15 ก.ค.) ยกระดับให้นักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งครึ่งหนึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์เขาด้วยถ้อยคำดุเดือด ทว่านับตั้งแต่นั้นได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ปกป้องที่เข้มแข็งที่สุดของอดีตประธานาธิบดี
ข่าวคราวนี้ ซึ่งแถลงเป็นที่แรกผ่านทางทรัสต์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของทรัมป์ ปรากฏออกมาในช่วงเริ่มต้นของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันในมิลวอกี เป็นเวลา 4 วัน เพื่อรับรองผู้ถูกเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทรัมป์ เขียนเป็นทรัสต์ โซเชียล ว่า "หลังจากไตร่ตรองและขบคิดมาช้านาน และพิจารณาตัวเลือกอื่นมากมายที่ล้วนแต่มีพรสวรรค์ ผมตัดสินใจเลือกบุคคลรายนี้ว่ามีความเหมาะสมที่สุดที่สำหรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั่นได้แก่วุฒิสมาชิก เจ.ดี.แวนซ์ แห่งรัฐโอไฮโอ"
การเลือก เจมส์ เดวิด แวนซ์ อาจเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสแก่ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน ในขณะที่ แวนซ์ ซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวโอไฮโอ ที่มีคะแนนนิยมสูงลิ่วในฐานเสียงของรีพับลิกันแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ แวนซ์ เป็นนักการเมืองหัวอนุรักษนิยมสุดขั้วที่มาจากรัฐฐานเสียงของรีพับลิกัน ดังนั้นมันจึงดูเหมือนว่าการเลือกเขาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีในครั้งนี้ จะไม่ดึงดูดคะแนนเสียงใหม่ๆ ให้ทรัมป์ ได้มากเท่าไหร่ แถมบางทีอาจก่อความบาดหมางกับพวกสายกลาง ในขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์บางส่วนพยายามผลักดันให้เขาเลือกผู้หญิงหรือบุคคลผิวสีมาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี เพื่อขยายขอบเขตพันธมิตร ที่นอกเหนือไปจากกลุ่มชายผิวขาว
บรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์บางส่วน บอกว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้ ซึ่งรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร ณ เวทีหาเสียงที่เพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.) ได้โฟกัสการเลือกคู่ชิงรองประธานาธิบดี ไปที่คนที่เข้าไว้ใจและสามารถก้าวเดินไปเคียงข้างกัน
แดน เอเบอร์เฮิร์ท นักธุรกิจน้ำมัน ผู้บริจาคของทรัมป์ มองว่าการเลือก แวนซ์ เป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงสัญญาณความเชื่อมั่นในทีมหาเสียงของทรัมป์ ว่าจะเป็นฝ่ายมีชัยเหนือประธานาธิบดีโจ ไบเดน แม้โพลต่างๆ แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ยังคงสูสีในทั่วประเทศ แต่ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำพอสมควร ในรัฐสมรภูมิเกือบทั้งหมด ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินการเลือกตั้ง
ในการเลือก แวนซ์ ทางทรัมป์ ได้มองข้ามตัวเต็งรายอื่นๆ ในนั้นรวมถึงวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ และวุฒิสมาชิกทิม สกอตต์ รวมไปถึง ดั๊ก เบอร์กัม ผู้ว่าการรัฐนอร์ทดาโคตา
ตัวของ แวนซ์ เอง เคยวิพากษ์วิจารณ์ ทรัมป์ อย่างรุนแรงทั้งก่อนและหลังจากศึกเลือกตั้งปี 2016 ที่ ทรัมป์ คว้าชัยชนะเหนือ ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต เรียกเขาว่า "คนงี่เง่า" และ "ฮิตเลอร์ของอเมริกา" เช่นเดียวกับคำหยาบคายอื่นๆ
แต่ระหว่างที่ แวนซ์ เร่งเครื่องสำหรับชิงเก้าอี้วุฒิสภาสหรัฐฯ ในรัฐโอไฮโอ ในปี 2022 เขาเปลี่ยนท่าทีกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ปกป้องที่แข็งขันที่สุดของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ โดยให้การสนับสนุน ทรัมป์ แม้กระทั่งในยามที่บรรดาวุฒิสมาชิกคนอื่นๆ บางส่วนปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น
แวนซ์ กลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยแสดงความสงสัยว่าชีวิตของ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น ตกอยู่ในอันตรายจริงหรือไม่ แม้ว่าบรรดาผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงเข้าไปประชิดห่างจาก เพนซ์ ไม่กี่หลา ระหว่างที่เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับรุดพาตัวเขาหลบหนีออกจากอาคาร
นอกจากนี้ แวนซ์ ยังส่งเสียงไปในทิศทางเดียวกับ ทรัมป์ ในกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของกระทรวงยุติธรรมในการดำเนินคดีกับพวกที่ก่อจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
ในเดือนมกราคม เขาปฏิเสธวิจารณ์ทรัมป์ ต่อกรณีที่ออกมายุให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย โจมตีบรรดาพันธมิตรนาโตของอเมริกา หากว่าชาติต่างๆ เหล่านั้นไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมของตนเอง
มีรายงานว่าบรรดาที่ปรึกษาใกล้ชิดที่สุดของทรัมป์ ส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบเกี่ยวกับการเสนอชื่อ แวนซ์ จนกระทั่งในวันจันทร์ (15 ก.ค.)
ทีมหาเสียงของไบเดน ระบุในถ้อยแถลง แสดงความคิดเห็นเหน็บแนมความเคลื่อนไหวครั้งนี้ โดยบอกว่าที่ทรัมป์ เลือก แวนซ์ ก็เพราะว่าวุฒิสมาชิกจากโอไฮโอ จะไม่ขวางทางเขา หากว่าอดีตประธานาธิบดีดำเนินการใช้อำนาจเผด็จการใดๆ ขณะดำรงตำแหน่ง ต่างจาก ไมค์ เพนซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดีคนก่อน
ทั้งนี้ เพนซ์ ซึ่งเคยเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีของทรัมป์ 2 สมัย แต่เขาไม่ให้การรับรองอดีตบอสของตนเองในศึกเลือกตั้งในปีนี้
(ที่มา : รอยเตอร์)