ผลสำรวจ CNN ล่าสุด เผยผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันราว 3 ใน 4 เชื่อว่าพรรคเดโมแครตจะมีโอกาสชนะศึกเลือกตั้งมากขึ้น หากเฟ้นหาบุคคลอื่นมาชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวแทนประธานาธิบดี โจ ไบเดน
โพล CNN ซึ่งจัดทำโดย SSRS ยังพบด้วยว่า คะแนนนิยมในตัว ไบเดน ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ภายหลังการประชันวิสัยทัศน์รอบแรกกับ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ซึ่ง ไบเดน ทำผลงานได้อ่อนปวกเปียก
ผลสำรวจในครั้งนี้ยังพบด้วยว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯ เทคะแนนให้ ทรัมป์ เหนือ ไบเดน 49% ต่อ 43% ซึ่งสอดคล้องกับผลโพลระดับชาติของ CNN เมื่อเดือน เม.ย. และมากพอๆ กับส่วนต่างคะแนนที่ ทรัมป์ เป็นต่อ ไบเดน ในผลสำรวจเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว
จากผลโพลนี้ยังปรากฏสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่า ทั้ง ทรัมป์ และ ไบเดน ต่างได้รับการหนุนหลังจากคนในพรรคตัวเองมากขึ้นตลอดไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ ทรัมป์ ถูกไต่สวนคดีอาญาในศาลนิวยอร์ก และมีการเริ่มต้นประชันวิสัยทัศน์ ทว่ากลุ่มผู้ออกเสียงที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด(independents) กลับยิ่งรู้สึกลังเลไม่อยากสนับสนุนผู้สมัครทั้ง 2 คน
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจยังพบว่ารองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส เป็นแกนนำพรรคเดโมแครตที่มีคะแนนนิยมสูสีกับ ทรัมป์ มากเป็นพิเศษ 45% ต่อ 47% ซึ่งหากคำนึงถึงค่าความผิดพลาด (margin of error) ในการทำโพลด้วยแล้ว ก็นับว่าไม่มีใครเป็นฝ่ายนำเด็ดขาด
การที่ แฮร์ริส ได้รับความนิยมสูงขนาดนี้ส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนของกลุ่มสตรี (50% ของผู้หญิงโหวตหนุน แฮร์ริส มากกว่าทรัมป์ ในขณะที่ 44% โหวตหนุน ไบเดน มากกว่า ทรัมป์) และกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดซึ่งสนับสนุน แฮร์ริส มากกว่า ไบเดน 43% ต่อ 34%
สำหรับแกนนำพรรคเดโมแครตคนอื่นๆ ซึ่งมีการพูดกันว่าอาจจะขึ้นมาแทนที่ ไบเดน ได้ล้วนแต่มีคะแนนนิยมตามหลัง ทรัมป์ อยู่ห่างๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย (ทรัมป์ 48% นิวซัม 43%) พีท บุตติเจิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ (ทรัมป์ 47% บุตติเจิจ 43%) และเกร็ตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน (ทรัมป์ 47% วิตเมอร์ 42%)
ทีมหาเสียงของ ไบเดน ยังยืนกรานเสียงแข็งว่าผู้นำสหรัฐฯ จะไม่ถอนตัวจากศึกเลือกตั้ง ขณะที่แหล่งข่าววงในยอมรับว่าคนในพรรคเดโมเครตเริ่มมีการพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้แทนพรรค ซึ่งไม่เพียงยุ่งยากในด้านโลจิสติกส์ แต่ยังมีความเสี่ยงทางการเมืองสูงมากด้วย
ไบเดน มีคะแนนนิยมในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นฐานเสียงเดโมแครตเพิ่มขึ้นเป็น 91% จาก 85% เมื่อเดือน เม.ย. ขณะที่กลุ่มฐานเสียงรีพับลิกัน 93% ประกาศสนับสนุนทรัมป์ ซึ่งไม่แตกต่างจากเมื่อเดือน เม.ย. มากนัก ส่วนในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดนั้นปรากฏว่า ทรัมป์ ยังคงมีคะแนนนำ ไปเดน ประมาณ 10 จุด (44% ต่อ 34%) และในกลุ่มนี้ยังมีผู้ที่บอกว่า “ไม่เลือกทั้ง 2 คน” หรือจะไม่ออกไปใช้สิทธิเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 21%
ที่มา : CNN