ถนนตัดใหม่ในญี่ปุ่นสายหนึ่งไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เนื่องจากติด “สุสาน” ที่มีร่างไร้วิญญาณราว 200 ศพตั้งขวางอยู่กึ่งกลางพอดี นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงเรื่องการวางแผนและมาตรการเวนคืนที่ดินของภาครัฐ
สื่อ Nippon TV ได้ส่งผู้สื่อข่าวไปลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งได้ทราบเหตุผลที่สุสานแห่งนี้ไม่ถูกย้ายออกไปเสียที
รายงานข่าวระบุว่า ถนนสายนี้มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเชื่อมระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองซายามะ (Sayama) ส่วนสุสานที่ตั้งขวางอยู่กลางถนนเป็นที่ของวัดเซงโย-อิน (Zengyo-in Temple) ในเมืองเนริมะ (Nerima) ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 500 ปี
เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ให้สัมภาษณ์กับ Nippon TV ถึงสาเหตุที่สุสานยังไม่ถูกย้าย โดยบอกว่าทางวัด “ยินยอม” ให้มีการย้ายสุสานแล้ว แต่กลับมีอุปสรรคยุ่งยากอื่นๆ ตามมา
เจ้าอาวาสให้ข้อมูลว่า รัฐบาลได้ทำเรื่องขอย้ายหลุมฝังศพเฉพาะในส่วนที่จะตัดถนนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าจะมีหลุมฝังศพราวๆ 70 หลุมที่ไม่ถูกเคลื่อนย้าย และถูกตัดขาดออกจากพื้นที่ของตัววัด นอกจากนี้ รัฐยังจะจ่ายเงินชดเชยให้เฉพาะพื้นที่ที่โดนเวนคืน เท่ากับว่าสุสานที่เหลือจะไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ
ทั้งนี้ มีบางคนที่เสนอให้มีการย้ายสุสานทั้งหมดไปที่อื่น แต่ก็ไม่มีพื้นที่ไหนใหญ่พอจะรองรับหลุมฝังศพได้ทั้งหมด
Nippon TV ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการตัดถนนเส้นนี้ โดยพบว่าการเวนคืนที่ดินเริ่มขึ้นเมื่อ 18 ปีก่อน และมีประชาชนกว่า 200 ครอบครัวที่ต้องยอมย้ายออกไป
ชายคนหนึ่งซึ่งถูกเวนคืนที่ดินเมื่อ 17 ปีก่อนเล่าว่า เขาต้องยอมทิ้งบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำของครอบครัว และคงจะทำใจได้ง่ายขึ้นหากถนนเส้นนี้เปิดใช้งานได้สำเร็จและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน แต่จากปัญหาคาราคาซังเรื่องสุสานทำให้เขาอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ตนเองยอมย้ายออกไปเพื่ออะไร?
เนื่องจากแผนการตัดถนนเส้นนี้มีมานานกว่า 60 ปีแล้ว ชาวบ้านจึงยิ่งวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นว่ารัฐบาลล้มเหลวในการเจรจากับทางวัด
ฝ่ายบริหารระบุว่า มีแผนที่จะเปิดให้ใช้ถนน “บางส่วน” ก่อน ส่วนการเปิดเต็มรูปแบบนั้นคงยังทำไม่ได้ในอนาคตอันใกล้
ที่มา : must share news