ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนเดินขบวนในนครเยรูซาเลม เป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันอาทิตย์ (31 มี.ค.) เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มความพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อช่วยเหลือตัวประกันในกาซา รวมทั้งประกาศขับไล่เนทันยาฮูที่ทำงานล้มเหลว ขณะที่ในวันจันทร์ (1 เม.ย.) กองทัพยิวถอนออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในกาซาแล้ว หลังปฏิบัติการทางทหารดุเดือดนานถึงสองสัปดาห์ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก
ผู้ประท้วงในเยรูซาเลมพากันปิดถนนสายหลักของเมือง หลังจากเดินขบวนไปยังหน้ารัฐสภาอิสราเอล จุดไฟ และโบกธงชาติ และถูกตำรวจใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่เพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนขับไล่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู
บรรดาผู้ประท้วงบอกว่า การชุมนุมในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการชุมนุมคืนที่สองติดกัน เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามกาซาระอุขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
เกือบ 6 เดือนเต็มของการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ ถึงแม้ภายในอิสราเอลยังคงมีผู้คนจำนวนมากที่แสดงความสนับสนุนการทำสงครามปราบปรามฮามาส ทว่าเนทันยาฮูก็เผชิญความกดดันมากขึ้น โดยที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลขวาจัดสุดโต่งของเนทันยาฮู และทางครอบครัวตัวประกันที่ถูกคุมขังอยู่ในกาซา ดูจะค้นพบเป้าหมายร่วมในการรณรงค์ต่อสู้ร่วมกัน
ทั้งนี้ ฝ่ายครอบครัวตัวประกันประกาศว่า จะรวมกลุ่มประท้วงทุกคืนในสัปดาห์นี้เพื่อกดดันให้รัฐบาลเพิ่มความพยายามในการเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน นอกจากนั้นพวกเขายังเรียกร้องให้เนทันยาฮูลาออก เพื่อรับผิดชอบกับการดำเนินนโยบายที่ล้มเหลว
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 มี.ค.) ผู้ประท้วงหลายพันคนที่รวมตัวชุมนุมในเทลอาวีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ได้ปิดมอเตอร์เวย์สายหลักนานเกือบ 2 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ประท้วงอีกกลุ่มปักหลักอยู่หน้าที่พักของเนทันยาฮูในเยรูซาเลมและตะโกนเรียกร้องให้เขาลาออก
ผู้ประท้วงคนหนึ่งบอกว่า ความโกรธแค้นเนทันยาฮูจากกรณีที่ปล่อยให้ฮามาสบุกเข้าไปโจมตีในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซา รวมถึงการบริหารประเทศของเขา ขณะนี้ลุกลามถึงจุดเดือด ผู้คนเบื่อหน่ายและอยากให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด
นอกจากความกดดันภายในประเทศแล้ว เนทันยาฮูที่เข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อนซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดีเมื่อวันอาทิตย์ ยังปีนเกลียวกับพันธมิตรหลักคืออเมริกาที่คัดค้านแผนการบุกเมืองราฟาห์ ทางใต้สุดของฉนวนกาซาที่มีชาวปาเลสไตน์หลบภัยอยู่ถึงราว 1.5 ล้านคน
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เมื่อไม่กี่วันนี้วอชิงตันเพิ่งอนุมัติจัดส่งระเบิดและเครื่องบินขับไล่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้อิสราเอล
ขณะเดียวกันเนทันยาฮูแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการสำหรับการบุกราฟาห์ทางภาคพื้นดินแล้ว พร้อมอ้างว่า กองทัพเตรียมพร้อมอพยพพลเรือนออกจากเมืองดังกล่าว รวมทั้งจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นอกจากนั้นเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ได้ทำสุดความสามารถเพื่อหาทางช่วยเหลือตัวประกัน
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ (1) กระทรวงสาธารณสุขของกาซาแถลงว่า กองทัพอิสราเอลได้ถอนกำลังออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองกาซาซิตี้ และเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา หลังจากบุกค้นและโจมตีตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักทั้งบริเวณโดยรอบและภายในอาคาร
นอกจากนั้นยังพบศพหลายสิบศพ ซึ่งบางศพเน่าเปื่อยแล้ว และขณะนี้โรงพยาบาลไม่สามารถให้บริการได้โดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ อิสราเอลอ้างว่า ได้ต่อสู้กับนักรบปาเลสไตน์ที่หลบซ่อนอยู่ในโรงพยาบาลอัล-ชีฟา และสังหารข้าศึกอย่างน้อย 200 คน รวมทั้งพบคลังอาวุธขนาดใหญ่ที่มีทั้งปืน ระเบิด และเงินสด
หน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลฮามาสยังเผยว่า กองทัพอิสราเอลระเบิดบ้านกว่า 20 หลังในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในเมืองข่านยูนิสซึ่งเป็นเมืองหลักของกาซาตอนใต้ และมีการสู้รบรอบๆ 2 โรงพยาบาลใหญ่ของเมืองนั้น คือ นัสเซอร์ และอัล-อามาล
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศกาซาตั้งแต่เช้าวันจันทร์ และมีการสู้รบดุเดือดในกาซาซิตี้และข่านยูนิส ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คนเมื่อคืนวันอาทิตย์
ทางด้านอิสราเอลแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ทหารอิสราเอลเสียชีวิต 600 นายนับจากเริ่มต้นสงคราม ซึ่งรวมถึง 256 นายที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินนับจากช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ตำรวจอิสราเอลเผยว่า จับกุมซาบาห์ อับเดล ซาลาม ฮานิเยห์ วัย 57 ปี น้องสาวของอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสซึ่งลี้ภัยอยู่ในกาตาร์ ได้ที่เมืองเทลชีฟาทางใต้ของอิสราเอล เนื่องจากสงสัยว่า ติดต่อกับสายลับฮามาสและให้การสนับสนุนการก่อการร้ายในอิสราเอล และขณะนี้กำลังสอบสวนโดยมีหน่วยงานความมั่นคงชินเบ็ตร่วมสอบสวนด้วย
(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)