รอยเตอร์ - มอสสาดเผยยังคงมีความพยายามเจรจาหยุดยิงกับฮามาส แม้ความหวังริบหรี่ที่จะบรรลุข้อตกลงระงับการสู้รบในกาซาในช่วงเทศกาลรอมฎอนก็ตาม โดยที่ทั้งสองฝ่ายยังโทษกันไม่หยุดว่า เป็นต้นเหตุทำให้การเจรจาถึงทางตัน
หน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลแถลงเมื่อวันเสาร์ (9 มี.ค.) ว่า เดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการมอสสาด พบกับวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค.) เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน และวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา เผยว่า เบิร์นส์ยังคงอยู่ในตะวันออกกลาง แถลงการณ์ของมอสสาด ระบุเพิ่มเติมว่า ยังคงมีการติดต่อและร่วมมือกับคณะผู้เจรจาตลอดเวลาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งและบรรลุข้อตกลง
อิสราเอลและฮามาสต่างโทษกันไปมาว่า เป็นต้นเหตุทำให้การเจรจาเพื่อให้มีการหยุดยิงระหว่างเทศกาลรอมฎอนที่มีกำหนดเริ่มต้นประมาณวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) ถึงทางตัน ด้านแหล่งข่าวในฮามาสเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ฮามาสไม่มีแนวโน้มส่งตัวแทนกลับไปเจรจาที่ไคโรในช่วงสุดสัปดาห์
ทั้งนี้ อียิปต์ อเมริกา และกาตาร์เป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้มีการหยุดยิงในกาซาตั้งแต่เดือนมกราคม โดยข้อตกลงครั้งล่าสุดกินเวลา 1 สัปดาห์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งระหว่างนั้นฮามาสได้ปล่อยตัวประกันอิสราเอลกว่า 100 คน และอิสราเอลปล่ยนักโทษปาเลสไตน์ราว 300 คน
ฮามาสโทษอิสราเอลว่า เป็นฝ่ายทำให้การเจรจาเพื่อขยายเวลาการหยุดยิงให้นานขึ้นและปล่อยตัวประกัน 134 คนที่เชื่อว่า ยังอยู่ในกาซาถึงทางตัน ด้วยการไม่ยอมรับประกันการยุติสงครามหรือถอนทหารออกจากกาซา
ด้านมอสสาดตอบโต้ว่า ฮามาสไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และต้องการให้ความรุนแรงลุกลามทั่วตะวันออกกลางในช่วงรอมฎอน เจ้าหน้าที่อิสราเอลสำทับว่า สงครามจะสิ้นสุดลงต่อเมื่อฮามาสพ่ายแพ้เท่านั้น
ทางฝ่ายไบเดนที่ย้ำข้อเรียกร้องให้หยุดยิงชั่วคราว ให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่า การบรรลุข้อตกลงก่อนเทศกาลรอมฎอนเป็นไปได้เสมอ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด
แม้ย้ำการสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง แต่ไบเดนระบุว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ต้องจำกัดการบาดเจ็บล้มตายของชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งยังบอกอีกว่า เนทันยาฮูกำลังทำร้ายมากกว่าช่วยอิสราเอลจากการดำเนินการด้วยวิธีที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่อิสราเอลยึดมั่น
เมื่อถูกถามว่า ยินดีกลับไปอิสราเอลอีกหรือไม่ หลังจากไปเยือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมเพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอล ไบเดนตอบว่า ยินดีแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
ไบเดนยังกล่าวกับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่า การขู่บุกเมืองราฟาห์ของอิสราเอลถือเป็น “เส้นแดง” สำหรับเนทันยาฮู ก่อนกลับลำทันทีว่า ไม่มีเส้นแดง และตนจะไม่มีวันทอดทิ้งอิสราเอล
ความกังวลว่า จะมีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น ทำให้ไบเดนเรียกร้องให้เนทันยาฮูงดปฏิบัติการบุกราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของฉนวนกาซาและมีประชาชนกว่าครึ่งของทั้งหมด 2.3 ล้านคนหลบภัยอยู่นั้น เว้นแต่อิสราเอลจะมีแผนอพยพพลเรือนออกจากเมืองดังกล่าวเสียก่อน
อย่างไรก็ดี อิสราเอลยังคงระดมโจมตีทั่วกาซา ซึ่งรวมถึงอาคารที่พักอาศัย 12 ชั้นในราฟาห์ ซึ่งแม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทำให้พลเรือนหลายสิบครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย โดยกองทัพอิสราเอลอ้างว่า ฮามาสใช้อาคารดังกล่าวเป็นสถานที่วางแผนโจมตีอิสราเอล
ขณะเดียวกัน ระหว่างปราศรัยเนื่องในเทศกาลรอมฎอน อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส ประกาศว่า ปาเลสไตน์จะยังคงต่อสู้กับปาเลสไตน์จนกว่าจะได้เสรีภาพและอิสรภาพ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาเผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศและบุกภาคพื้นดิน มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตถึงเกือบ 31,000 คนในกาซา
สงครามกาซาปะทุขึ้นจากเหตุการณ์ที่ฮามาสบุกเข้าไปทางใต้ของอิสราเอลและสังหารเหยื่อ 1,200 คน รวมทั้งจับตัวประกัน 253 คนกลับไปกาซา
วันเสาร์ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิสราเอลกลุ่มหนึ่งปิดกั้นทางหลวงในเทลอาวีฟ นอกจากนั้น กลุ่มครอบครัวตัวประกันยังจัดชุมนุมในอีกสถานที่เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกัน