ผู้นำฮามาสเดินทางถึงอียิปต์เมื่อวันพุธ (20 ธ.ค.) ท่ามกลางความหวังว่า อิสราเอลและนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้อาจตกลงกันได้เพื่อหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในสงครามกาซา
กลุ่มฮามาสแถลงว่า อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำของกลุ่ม เดินทางถึงกรุงไคโรแล้วเพื่อหารือเกี่ยวกับการรุกรานฉนวนกาซาและเหตุการณ์อื่นๆ
แหล่งข่าววงในเผยว่า ฮานิเยห์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พบกับ ฮอสเซน อามีร์-อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ที่กาตาร์ จะหารือกับผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของอียิปต์ เกี่ยวกับการหยุดการรุกรานและสงครามในกาซา และจัดเตรียมข้อตกลงปล่อยนักโทษปาเลสไตน์
ก่อนหน้านั้นในคืนวันอังคาร (19) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เปิดเผยกับครอบครัวตัวประกันว่า ได้ส่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองไปยุโรป 2 ครั้งเพื่อหาทางช่วยเหลือตัวประกัน 129 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา และย้ำว่า นี่เป็นภารกิจสำคัญที่สุด
วันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล แถลงว่า อิสราเอลพร้อมหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมรอบใหม่ รวมทั้งเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซา เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล
ย้อนหลังไปเมื่อวันจันทร์ (18 ธ.ค.) แพลตฟอร์มข่าว “แอกซิออส” ของอเมริกา รายงานว่า เดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอล ได้พบหารือกับ วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) และนายกรัฐมนตรีชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี ของกาตาร์ ในยุโรป
กาตาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอียิปต์และอเมริกา เป็นตัวกลางสำคัญซึ่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง 1 สัปดาห์ในกาซาเมื่อเดือนที่แล้วที่มีการปล่อยตัวประกันอิสราเอล 80 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ 240 คน
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับฮามาสเผยว่า การเจรจาที่อียิปต์จะมุ่งเน้นข้อเสนอที่รวมถึงการตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ซึ่งจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอล 40 คนที่รวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้ชายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ และอาจมีการขยายข้อตกลงหยุดยิงออกไป หากตกลงกันได้เกี่ยวกับเงื่อนไขใหม่ในการปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม
แหล่งข่าวเสริมว่า อิสราเอลกำลังหารือเกี่ยวกับข้อเสนอเดียวกันนี้กับกาตาร์ โดยที่อเมริการ่วมรับรู้ด้วย
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวทางการทูต 3 รายคาดหมายว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะสามารถลงมติกันในวันพุธในญัตติซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา หลังจากเลื่อนมาแล้ว 2 ครั้งในวันจันทร์และอังคาร สืบเนื่องจากเหล่าชาติสมาชิกตกลงกันไม่ได้เรื่องถ้อยคำที่จะใช้ โดยในที่สุดญัตติล่าสุดนี้น่าจะใช้คำว่า เรียกร้องให้ “ระงับการสู้รบ”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ อเมริกาเป็นเพียงประเทศเดียวในคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งออกเสียงคัดค้านญัตติเรียกร้องหยุดยิงฉบับก่อนหน้านี้ ทว่าญัตติก็ต้องตกไปเนื่องจากเป็นการที่วอชิงตันใช้สิทธิ์ยับยั้ง ท่ามกลางการประณามของนานาประเทศ รวมถึงกลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ต้องการให้เร่งช่วยเหลือแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรมซึ่งพลเรือนในกาซาเผชิญอยู่อย่างเลวร้าย
สงครามกาซาคราวนี้ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบฮามาสจู่โจมบุกอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. สังหารผู้คน 1,140 คน และจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปยังกาซา จาหนั้นอิสราดอลก็ปฏิบัติการทิ้งระเบิดถล่มและบุกภาคพื้นดิน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกาซาที่ปกครองโดยฮามาสระบุตัวเลขอัปเดตจนถึงวันอังคารว่า ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเสียชีวิต 19,667 คน
ล่าสุดการสู้รบยังคงดำเนินต่อไปอย่างหนักหน่วง โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงวันอังคารว่า กองทัพอิสราเอลกำลังบุกเข้าสู่เครือข่ายอุโมงค์ของฮามาสทางตอนเหนือของกาซา อันเป็นส่วนหนึ่งของ “การกวาดล้างครั้งสุดท้าย” เพื่อกำจัดฮามาสจากกาซา
เวลาเดียวกัน กัลแลนต์สำทับว่า ปฏิบัติการทางตอนใต้ของกาซาจะใช้เวลานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงการโจมตีที่เมืองข่านยูนิสซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของกาซา และย้ำว่า อิสราเอลจะไม่หยุดสู้รบจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
กองทัพอิสราเอลยังเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สูญเสียทหาร 131 นายในปฏิบัติการภาคพื้นดินในกาซา และสังหารนักรบฮามาสได้ 7,000 คนโดยไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยัน พร้อมกับกล่าวโทษเช่นเคยว่า การเสียชีวิตของพลเรือนในกาซาเป็นเพราะฮามาสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
อย่างไรก็ดี นอกจากทำให้ประชาชนในกาซาราว 1.9 ล้านคน จากทั้งหมด 2.4 ล้านคน ต้องทิ้งบ้านเรือนของบ้านเรือนของพวกเขาเองแล้ว ทอร์ เวนเนสแลนด์ ผู้ประสานงานพิเศษสำหรับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางของยูเอ็นยังชี้ว่า สงครามครั้งนี้ทำให้การตอบสนองด้านมนุษยธรรมใกล้ถึงจุดล่มสลาย
และขณะที่กาซาเผชิญฤดูหนาวอันร้ายกาจ หน่วยงานเกี่ยวกับเด็กของยูเอ็นเตือนว่า จำนวนเด็กที่เสียชีวิตจากโรคภัยในกาซา อาจมีมากกว่าเด็กที่เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลเสียอีก
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)