อิสราเอลเผชิญการกดดันจากทั่วโลกรอบใหม่ในวันอังคาร (19 ธ.ค.) ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นมีกำหนดโหวตอีกญัตติหนึ่งที่เรียกร้องการหยุดยิงในกาซาอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน ด้านหน่วยงานสหประชาชาติหลายรายแสดงความโกรธเกรี้ยวการโจมตีที่อิสราเอลกระทำกับโรงพยาบาลต่างๆ ในกาซา ขณะที่อเมริกาประกาศจัดส่งอาวุธให้รัฐยิวต่อไป
สงครามในกาซาที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,140 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีก 250 คนถูกจับเป็นตัวประกันกลับไปคุมขังในกาซา
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของกาซาซึ่งปกครองโดยฮามาส อัปเดตตัวเลขในวันอังคาร (19) ว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 19,667 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก บาดเจ็บอีก 52,586 คน เฉพาะวันอังคารมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของกาซาที่ติดกับพรมแดนอียิปต์
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า กองทหารอิสราเอลบุกจู่โจมโรงพยาบาลอัล-อาห์ลีในกาซาซิตี้เมื่อคืนวันจันทร์ โดยทำลายกำแพงทางเข้าด้านหน้าและควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่
โรงพยาบาลแห่งนี้ที่ยังรู้จักกันในชื่อโรงพยาบาลแบ็ปติสต์ เป็นโรงพยาบาลที่เคยถูกโจมตีด้วยระเบิดในช่วงต้นสงครามซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายสิบคน และต่อมาสำนักข่าวเอพีระบุว่า มีแนวโน้มว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจากการยิงจรวดพลาดของฮามาส
ทางด้าน มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในขณะแถลงถึงสถานการณ์ในโรงพยาบาลต่างๆ ที่กาซาว่า เลวร้ายจน “เหลือเชื่อ” และ “ไร้จิตสำนึก”
ส่วน เจมส์ เอลเดอร์ โฆษกขององค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ที่กลับจากการไปเยือนกาซาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ กล่าวในการแถลงข่าวที่เมืองเจนีวาในวันอังคาร (19) ว่า กาซาคือ “สถานที่อันตรายที่สุดในโลก” สำหรับเด็กๆ
“ผมรู้สึกโกรธเกรี้ยวพวกที่มีอำนาจซึ่งยักไหล่ไม่แยแสกับฝันร้ายทางมนุษยธรรมซึ่งกระทำเอากับเด็กๆ เป็นล้านคน”
เขาพูดถึงเด็กๆ ที่กำลังถูกตัดแขนตัดขา และผู้ซึ่งจากนั้น “ก็ถูกฆ่าในโรงพยาบาลเหล่านั้นเอง” ขณะกองทัพอินราเอลถล่มโจมตีฉนวนกาซาไม่หยุด ภายหลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
“ผมรู้สึกโกรธเกรี้ยวที่มีเด็กๆ จำนวนมากขึ้นอีก ซึ่งกำลังต้องหลบซ่อนตัวขณะที่พวกเราพูดกันอยู่นี้ ผู้ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องถูกเล่นงานและต้องถูกตัดแขนตัดขาในวันต่อๆ ไป” เขาบอก
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (18) ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เยือนอิสราเอลและประกาศจัดส่งอาวุธให้อิสราเอลต่อเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศ ซึ่งรวมถึงกระสุน ยานยนต์ทางยุทธวิธี และระบบป้องกันภัยทางอากาศ
การเยือนตะวันออกกลางของออสตินมีขึ้นขณะที่มีความกังวลมากขึ้นว่า สงครามอาจลุกลามทั่วภูมิภาคนี้ หลังจากกบฏฮูตีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนฮามาส โดยที่เมื่อวันจันทร์ฮูตีประกาศว่า ได้โจมตีเรือสองลำที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล
ในวันจันทร์เช่นกัน ออสตินได้ประกาศจัดตั้งแนวร่วม 10 ชาติ ได้แก่ อเมริกา สหราชอาณาจักร บาห์เรน แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เซเชลส์ และสเปน เพื่อรับมือการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน เรือสินค้า และเรืออื่นๆ ในทะเลแดงของพวกฮูตี
เดิมทีในวันจันทร์(18) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กำหนดโหวตญัตติเรียกร้องหยุดการทำสงครามในกาซาอย่างเร่งด่วนและยั่งยืนเพื่อให้สามารถจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างราบรื่นและปลอดภัย
อย่างไรก็ดี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เป็นผู้เสนอญัตตินี้ ขอให้เลื่อนการลงมติเป็นวันอังคาร เพื่อให้มีเวลาเพิ่มเติมสำหรับเจรจาในประเด็นที่ซับซ้อน ขณะที่กาตาร์ที่เป็นหนึ่งในตัวกลางผลักดันข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า ยังคงดำเนินการทางการทูตเพื่อฟื้นการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม
ด้านฮามาสแย้มว่า พร้อมทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์แต่ต้องภายหลังการหยุดยิง
ส่วนแพลตฟอร์มข่าว “แอกซิออส” ของอเมริกา รายงานในวันจันทร์ว่า เดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอล ได้หารือกับบิลล์ เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของอเมริกา (ซีไอเอ) และนายกรัฐมนตรีชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี ของกาตาร์ในกรุงวอร์ซอ
วันเดียวกันนั้น โจเซฟ บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวหาอิสราเอลโจมตีกาซาแบบไร้จุดหมาย โดยพาดพิงถึงการเสียชีวิตของตัวประกันอิสราเอลเอง ผู้ที่อยู่ในโบสถ์คริสต์ และพลเรือนปาเลสไตน์
ขณะเดียวกัน รายงานจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติของอเมริการะบุว่า เกือบครึ่งของระเบิดที่เครื่องบินอิสราเอลทิ้งใส่กาซาเป็นระเบิดไม่นำวิถีที่มีความแม่นยำจำกัด
ทว่า เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศอิสราเอลแย้งว่า ระเบิดทุกลูกที่ใช้เป็นระเบิดที่มีความแม่นยำสูง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)