ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯในวันจันทร์(18ธ.ค.) เปิดเผยว่าอเมริกากำลังทำงานที่มุ่งหน้าสู่การจัดตั้งพันธมิตรนานาชาติ สำหรับตอบโต้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การโจมตีที่เป็นอันตราย" ของพวกกบฏฮูตี ต่อการเดินเรือสินค้าในทะเลแดง
มีเหตุโจมตีทางทะเลเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสปะทุขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม บีบให้บริษัทบางแห่ง ระงับการเดินเรือผ่านน่านน้ำที่เป็นปัญหาแต่มีความสำคัญยิ่งแห่งนี้
"การโจมตีเหล่านี้เป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิดและเป็นอันตราย และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ" ออสตินกล่าวระหว่างแถลงข่าว ขณะเดินทางเยือนอิสราเอล "เรากำลังลงมือจัดตั้งพันธมิตรนานาชาติ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามนี้ นี่ไม่ใช่เป็นประเด็นปัญหากับแค่สหรัฐฯ แต่มันเป็นปัญหาระดับนานาชาติ และควรได้รับการตอบสนองในระดับนานาชาติ"
ออสติน เปิดเผยว่าจะมีการประชุมทางไกลในวันอังคาร(19ธ.ค.) ซึ่งทางบรรดารัฐมนตรีทั้งหลายจากเหล่าประเทศตะวันออกกลาง จะร่วมกันพูดคุยหารือจัดการกับประเด็นนี้
ความคิดเห็นของ ไบเดน มีขึ้นหลังจากพวกกบฏฮูตี ที่ได้รับการสนุบสนุนจากอิหร่าน เปิดเผยว่าได้ลงมือโจมตีเรืออีก 2 ลำ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล ในทะเลแดง เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซา ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฮามาส
การโจมตีใส่เรือสวอน แอตแลนติก ที่มีนอร์เวย์เป็นเจ้าของและเรืออีกลำที่ทางกบฏฮูตี ระบุว่าได้แก่เรือเอ็มเอสซี คลารา ถือเป็นเหตุจู่โจมทางทะเลหนล่าสุดในหลายๆเหตุการณ์ ที่ก่อความปั่นป่วนแก่การค้าโลก ในความพยายามกดดันอิสราเอล ที่กำลังทำศึกสงครามกับพวกนักรบฮามาสในกาซา
นอกจากนี้แล้ว ออสติน ยังเตือนอิหร่าน ต่อการมอบความช่วยเหลือแก่กบฏฮูตี "การสนับสนุนของอิหร่านต่อปฏิบัติการโจมตีของกบฏฮูตีเล่นงานเรือสินค้าต่างๆ ต้องหยุดลง"
(ที่มา:เอเอฟพี)