คณะเจรจาในกรุงไคโรเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในกาซา หลังจากอเมริกาที่เป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล และถูกนานาชาติกดดันหนัก มีการปรับท่าทีหันมาเรียกร้องเสียงเข้มขึ้น ให้ระงับการสู้รบในดินแดนซึ่งถูกรัฐยิวปิดล้อมแห่งนี้ในทันที และเปิดช่องทางจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซามากขึ้น เพื่อบรรเทาความวิบัติหายนะด้านมนุษยธรรมที่กำลังเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ
ตัวแทนของกาตาร์และอียิปต์พบหารือกับตัวแทนของอเมริกาและฮามาสในกรุงไคโรเป็นวันที่ 2 เมื่อวันจันทร์ (4 มี.ค.) โดยไม่มีตัวแทนของอิสราเอลร่วมด้วย ทั้งนี้ประเด็นสำคัญคือการหยุดยิงก่อนเทศกาลเดือนถือศีลอดรอมฎอนจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งคาดหมายกันว่าจะอยู่ในราววันที่ 10 (เสาร์) หรือ 11 (อาทิตย์) ที่จะถึงนี้
สถานีทีวีของอียิปต์ที่มีสายสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลรายงานว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่ฮามาสที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าการเจรจายังคงดำเนินต่อไป
แผนการที่หารือกันอยู่นี้ครอบคลุมการหยุดยิงเป็นเวลานาน 6 สัปดาห์, การแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลจำนวนมากกับนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคน, และการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาเพิ่มขึ้น กระนั้น ยังมีหลายประเด็นที่ตกลงกันไม่ได้
ฮามาสนั้นต้องการให้อิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา ทว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยืนกรานว่า กองทัพอิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไปจนกว่าจะกวาดล้างกลุ่มฮามาสสำเร็จ ซึ่งรวมถึงการส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าไปกวาดล้างในเมืองราฟาห์ ที่อยู่ทางใต้สุดของฉนวนกาซา และเวลานี้มีชาวปาเลสไตน์ราว 1.5 ล้านคนหลบภัยอยู่
อิสราเอลยังต้องการให้ฮามาสเปิดเผยรายชื่อตัวประกันที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ซึ่งเชื่อว่า มีจำนวน 130 คน จากทั้งหมด 250 คนที่ถูกนักรบฮามาสจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. รวมทั้งยังเชื่อว่า 31 คนในจำนวนที่เหลืออยู่นั้นความจริงได้เสียชีวิตแล้ว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของฮามาสยังเปิดเผยว่า ฮามาสต้องการให้ข้อตกลงหยุดยิงครอบคลุมการจัดส่งอาหาร ยา และเชื้อเพลิงเข้าสู่กาซาด้วยรถบรรทุกวันละอย่างน้อย 400-500 คัน
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสของอเมริกา ออกมาเรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ (3 มี.ค.) ให้คู่สงครามยอมรับข้อตกลงหยุดยิง และวิจารณ์รัฐบาลอิสราเอลด้วยถ้อยคำที่ถือว่ารุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของทางเจ้าหน้าที่อเมริกา เกี่ยวกับเรื่องความช่วยเหลือที่จัดส่งเข้าสู่กาซา
แฮร์ริสกล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากความทุกข์ยากเดือดร้อนอย่างยิ่งยวดของชาวกาซาในขณะนี้ จำเป็นต้องมีการหยุดยิงอย่างน้อย 6 สัปดาห์ทันที และเรียกร้องให้ฮามาสยอมรับข้อตกลงนี้
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังย้ำเกี่ยวกับความอดอยากหิวโหยและความทารุณโหดร้ายที่ชาวกาซาต้องเผชิญ และเรียกร้องให้รัฐบาลเนทันยาฮูพยายามมากขึ้นเพื่อให้สามารถจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมีข้ออ้างใดๆ
การแสดงความคิดเห็นนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากท่าทียืนกรานสนับสนุนอิสราเอลซึ่งรวมไปถึงการส่งความช่วยเหลือทางทหารไปให้ ตลอดจนจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในกาซาที่ตัวเลขอัปเดตล่าสุดในวันจันทร์ (4) ระบุว่าเพิ่มเป็น 30,534 คน
อนึ่ง ในวันจันทร์ ทั้งแฮร์ริส, แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ มีกำหนดพบหารือกับ เบนนี แกนซ์ อดีตผู้บัญชาการทหารของอิสราเอลและปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีสงครามของเนทันยาฮู ในวอชิงตัน
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความพยายามแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์โดยวิธีการทูต การสู้รบขัดแย้งในกาซายังคงไม่ลดน้อยถอยลง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีการปะทะในย่านไซตุนในเมืองกาซาซิตี้และเมืองข่านยูนิส ขณะที่หน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลฮามาสแถลงว่า อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศหลายสิบระลอก ตลอดจนทำการโจมตีด้วยปืนใหญ่อย่างรุนแรงทั่วกาซา และกระทรวงสาธารณสุขรายงานในวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิต 124 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทางด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้บุกโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในข่านยูนิส และสังหาร “ผู้ก่อการร้าย” 15 คน รวมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์หลายสิบคนในวันอาทิตย์
โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ออกมาเตือนว่า สงครามกาซาที่ลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วในขณะนี้ อาจยิ่งลุกลามเป็นวงกว้างขึ้นและส่งผลต่อทุกประเทศในตะวันออกกลาง รวมทั้งภูมิภาคอื่นๆ
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)