xs
xsm
sm
md
lg

เซเลนสกี้อ้างรัสเซียเตรียมบุกรอบใหม่กลางปีนี้ รบ.ไบเดนเร่งสภาโอเคงบช่วยยูเครน ย้ำส่วนใหญ่ใช้ซื้ออาวุธอเมริกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ขณะตอบคำถามของพวกผู้สื่อข่าว ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.พ.)
“เซเลนสกี้” ร้องลั่น รัสเซียเตรียมบุกยูเครนรอบใหม่ราวปลายพฤษภาคมหรือช่วงฤดูร้อนนี้ แต่ไม่วายคุยว่าเคียฟมีแผนรับมือแล้ว กระนั้นก็ไม่ลืมเร่งรัดให้สภาล่างสหรัฐฯอนุมัติงบช่วยเคียฟก้อนใหม่กว่า 60,000 ล้านดอลลาร์โดยเร็ว ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง รักษาการรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เป็นพวกนีโอคอนตัวกลั่น ออกโรงยืนยันอีกครั้ง ความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนนั้นส่วนใหญ่จัดสรรให้การผลิตอาวุธภายในอเมริกาเอง

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.พ.) หรือหนึ่งวันหลังวาระครบรอบ 2 ปีที่รัสเซียบุกรุกรานยูเครนว่า ยูเครนมีแผนรับมือการบุกรอบใหม่ของรัสเซียที่คาดว่า จะเกิดขึ้นปลายเดือนพฤษภาคมหรือช่วงฤดูร้อน แต่ไม่อาจเปิดเผยรายละเอียดได้ และสำทับว่า การบุกระลอกก่อนหน้านี้ของมอสโกที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด

ถึงแม้ในเดือนนี้ รัสเซียเพิ่งประกาศชัยในการเข้ายึดเมืองอัฟดิอิฟกา หลังจากกองทัพยูเครนต้องถอยร่นภายหลังทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังเป็นเรือนหมื่นทำสงครามแบบพร่ากำลังกันอยู่ที่เมืองนี้เป็นแรมปี ถือเป็นความสำเร็จในสนามรบครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการยึดเมืองบัคมุตได้ในเดือนพฤษภาคม 2023 และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศเมื่อวันอังคารที่แล้ว (20) ว่า กองทัพรัสเซียจะบุกลึกเข้าไปในดินแดนยูเครนต่อยอดความสำเร็จจากอัฟดิอิฟกา ต่อมาในวันจันทร์ (26) กองทัพยูเครนยืนยันตามการแถลงก่อนหน้านั้นของฝ่ายรัสเซียว่า ฝ่ายเคียฟได้ถอยออกมาจากหมู่บ้านลาสตอชคีน ซึ่งอยู่ถัดจากอัฟดิอิฟกาไปทางตะวันตกราว 2 กม. โดยบอกว่าความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยสกัดกั้นการรุกคืบไปทางตะวันตกของกองทหารรัสเซีย

ในวันจันทร์ (25) ผู้นำยูเครนยังให้ตัวเลขอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบกว่าปีว่า ทหารยูเครนเสียชีวิต 31,000 นายนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ปรากฏว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียวิจารณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ของอเมริกาเคยรายงานไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า นับถึงตอนนั้น เคียฟสูญเสียกำลังพลเกือบ 70,000 นาย และรัสเซียเสียทหาร 120,000 นาย

อย่างไรก็ดี ไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดสามารถตรวจยืนยันตัวเลขเหล่านี้อย่างอิสระ โดยที่ทั้งรัสเซียและยูเครนตลอดจนพวกผู้สนับสนุนนิยมประเมินความสูญเสียของฝ่ายตนต่ำเกินจริง และประเมินความเสียหายของฝ่ายตรงข้ามสูงเกินจริง

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียูเครนแถลงอ้างว่า แผนปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่ของเคียฟเมื่อปีที่แล้วซึ่งไม่สามารถเจาะทะลุแนวต้านของรัสเซียได้นั้น ได้รั่วไหลไปถึงเครมลินตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นปฏิบัติการด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้แจกแจงว่า รั่วไหลได้อย่างไร

เซเลนสกี้แสดงเชื่อมั่นอีกครั้งในวันจันทร์ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะอนุมัติแพ็คเกจความช่วยเหลือทางทหารและการเงินล็อตใหม่มูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ โดยเขาย้ำว่ายูเครนต้องการให้คองเกรสตัดสินใจภายในเดือนนี้

เขายังบอกว่า ความพยายามในการสู้รบของยูเครนขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของตะวันตก และเสริมว่า สหภาพยุโรป ส่งกระสุนปืนใหญ่ให้แค่ 30% ของ 1 ล้านนัดที่สัญญาไว้

ในอีกด้านหนึ่ง สัปดาห์ที่แล้ว วิกตอเรีย นูแลนด์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหัวเรือใหญ่คนหนึ่งของพวกแนวคิดสายอนุรักษนิยมใหม่ (นีโอคอน) ในคณะบริหารไบเดน ให้สัมภาษณ์เครือข่ายทีวีซีเอ็นเอ็น โดยย้ำว่า วอชิงตันใช้เงินส่วนใหญ่ที่จัดสรรให้ยูเครน ไปในการซื้อหาอาวุธและเครื่องกระสุนซึ่งผลิตขึ้นภายในสหรัฐฯ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า แพ็คเกจความช่วยเหลือใหม่ที่ยังค้างอยู่ในสภาจะผ่านความเห็นชอบ เนื่องจากส่งผลดีต่ออเมริกาเอง และสำทับว่า การสนับสนุนยูเครนในอเมริกายังคงแข็งแกร่ง

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เคยกล่าวในทำนองเดียวกันนี้ระหว่างแถลงข่าวเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่า 90% ของความช่วยเหลือทางการเงินที่ให้ยูเครนนั้น จะจัดสรรให้การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ในอเมริกา และย้ำว่า ความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่ให้เคียฟจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจ ชุมชนท้องถิ่น และฐานอุตสาหกรรมการทหารของอเมริกา

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า คนอเมริกันจำนวนมากขึ้นไม่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเว้นแต่จะพ่วงเงื่อนไขการเจรจาสันติภาพ โดยผลสำรวจของแฮร์ริส โพลล์ และสถาบันควินซีย์ พบว่า มีคนอเมริกันเพียง 22% เห็นว่า วอชิงตันควรให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เคียฟโดยไม่มีเงื่อนไขต่อไป ขณะที่ 48% ระบุว่า เงินช่วยเหลือก้อนใหม่ต้องมาพร้อมเงื่อนไขในการพยายามหาทางออกทางการทูต และ 30% บอกว่า อเมริกาควรหยุดช่วยเหลือยูเครนได้แล้ว
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น