เซเลนสกีระบุชัยชนะของยูเครนต้องพึ่งพิงแรงสนับสนุนจากตะวันตกเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะอนุมัติแพกเกจช่วยเหลือทางทหาร 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในไม่ช้านี้
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.พ.) ยอมรับว่ากองทัพของเขาต้องเผชิญกับภาวะถอยหลังลงคลอง มีทหารยูเครนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 31,000 นายในสงคราม และแผนการต่างๆ ในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้เมื่อฤดูร้อนที่แล้วเกิดรั่วไหลถึงมือรัสเซีย จนกระทั่งมันประสบความล้มเหลว
เขาร้องขอตะวันตกให้เพิ่มโอกาสที่ยูเครนจะคว้าชัยชนะในสงคราม ณ เวทีสัมมนาหนึ่ง ในวาระครบรอบ 2 ปีแห่งการรุกรานของรัสเซีย "ยูเครนจะพ่ายแพ้หรือไม่ มันจะยากลำบากมากๆ สำหรับเราหรือเปล่า และมันจะมีความสูญเสียมากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันขึ้นอยู่กับพันธมิตรของเรา ขึ้นอยู่กับโลกตะวันตก" เซเลนสกีระบุ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพยูเครนอ่อนแอลงสืบเนื่องจากการขาดแคลนกระสุน ในขณะที่แพกเกจเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ถูกขัดขวางท่ามกลางการโต้เถียงทางการเมืองในสภาคองเกรส
ประธานาธิบดียูเครน บอกว่า "มีความหวังสำหรับคองเกรส และผมมั่นใจว่ามันจะออกมาในทางบวก"
ยูเครนคร่ำครวญมานานหลายเดือนว่าความช่วยเหลือจากตะวันตกนั้นล่าช้าเกินไป และการเตะถ่วงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างแท้จริง ในขณะที่สงครามกับรัสเซียลากยาวเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว
นอกจากนี้ เซเลนสกียอมรับเป็นครั้งแรกว่า รัสเซียรู้ข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ที่ถูกคาดหวังไว้อย่างสูงเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว แต่สุดท้ายจบลงด้วยความล้มเหลว "แผนปฏิบัติการต่างๆ อยู่บนโต๊ะของเครมลิน ก่อนปฏิบัติการโจมตีตอบโต้เริ่มขึ้น"
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีอ้างว่ายูเครนประสบความสูญเสียในสงครามน้อยกว่าที่รัสเซีย กล่าวอ้างเป็นอย่างมาก "ทหารยูเครน 31,000 ราย เสียชีวิตในสงครามนี้ ไม่ใช่ 300,000 หรือ 150,000 หรือในสิ่งที่ปูตินบอก หรือสิ่งที่คนใกล้ชิดขี้โกหกของเขาพูด"
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่ามีทหารยูเครนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บไปแล้วราว 383,000 นาย
อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุว่าการเตะถ่วงแรงสนับสนุนคือปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ยูเครนต้องถอนกำลังออกจากแนวหน้าที่เมืองอัฟดิอิฟดา ในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้รัสเซียรุกคืบด้านดินแดนได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี
เซเลนสกีพยายามกดดันผู้นำกลุ่มจี7 ในวันเสาร์ (24 ก.พ.) ให้รับประกันส่งมอบอาวุธรวดเร็วขึ้น โดยบอกกับพวกเขาว่า "ปูตินสามารถเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามนี้" และ "เราจะเป็นฝ่ายชนะ" อย่างไรก็ตาม หลังจากขวบปีแห่งการยันกันไปยันกันมา เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียกำลังหาทางเดินหน้าเพิ่มเติมในสมรภูมิรบและพยายามรุกคืบไกลเกินกว่าอัฟดิอิฟกา
รัสเซียใช้โอกาสวันเริ่มต้นขวบปีที่ 3 ของสงคราม ด้วยการระดมโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธอีกระลอกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธลูกหนึ่งที่พุ่งใส่เมืองคอสเทียนทีนิฟกา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทำลายสถานีรถไฟที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เช่นเดียวกับอพาร์ตเมนต์ ร้านค้า และอาคารราชการหลายสิบหลัง จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธมากกว่า 8,000 ลูกเข้าใส่ประเทศของเขานับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น เฉลี่ยแล้วมากกว่า 10 ลูกต่อวัน
(ที่มา : เอเอฟพี)