รัสเซียสูญเสียรถถังไปแล้วมากกว่า 3,000 คัน ระหว่างปฏิบัติการรุกรานยูเครน เทียบเท่ากับรถถังคงคลังที่ใช้งานได้ทั้งหมดในช่วงก่อนเกิดสงคราม อย่างไรก็ตาม มอสโกมียานเกราะคุณภาพต่ำๆ ในคลังสำรองเพียงพอที่จะทดแทนรถถังเหล่านั้นเป็นเวลานานหลายปี รายงานของศูนย์วิจัยชั้นนำแห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักรระบุเมื่อวันอังคาร (13 ก.พ.)
ในรายงานประจำปี Military Balance ของสถาบันศึกษายุทธศาสตร์นานาชาติ ซึ่งมีสำนักงานในกรุงลอนดอน ระบุว่า ยูเครนเองก็ประสบความสูญเสียอย่างหนักเช่นกันนับตั้งแต่เริ่มต้นการรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 แต่การเติมเต็มทางทหารจากตะวันตก ช่วยให้พวกเขายังคงรักษาไว้ซึ่งคลังสำรอง พร้อมกับยกระดับด้านคุณภาพ
"มอสโกเปลี่ยนจากคุณภาพเข้าสู่ปริมาณ ด้วยการดึงรถถังเก่าๆ หลายพันคนออกจากคลังสำรอง ในอัตราที่น่าจะแตะระดับราว 90 คันต่อเดือน" รายงานระบุ พร้อมบอกว่าจากคลังสำรองของรัสเซีย นั่นหมายความว่า "มอสโกมีศักยภาพประคับประคองท่ามกลางความสูญเสียอย่างหนักไปได้ราวอีก 3 ปี และเติมรถถังจากคลังสำรอง แม้ว่าพวกมันอยู่ในมาตรฐานทางเทคนิคระดับต่ำ อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่คำนึงถึงศักยภาพการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ของพวกเขา"
รัสเซียมีกองกำลังรถถังประจัญบานหลักที่อยู่ในประจำการราว 1,750 คัน ไล่ตั้งแต่ T-55 ที่มีอายุเก่าแก่หลายทศวรรษ ไปจนถึงรถถังรุ่นใหม่อย่าง T-80 และ T-90 ตามรายงานของ Military Balance ในขณะที่อีกราว 4,000 คัน อยู่ในคลังสำรอง
"สถานการณ์นี้ตอกย้ำความรู้สึกที่ว่าภาวะทางตันของการสู้รบอาจลากยาวไปตลอดปี 2024" รายงานของ Military Balance อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว
รายงานนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมผ่านร่างกฎหมายมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติม ในสัปดาห์นี้
ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 3 บรรดาผู้บัญชาการยูเครนส่งสัญญาณว่าพวกเขาเตรียมการเดินหน้าบดขยี้กองกำลังรัสเซียทั่วแนวหน้าที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือนมกราคม ทาง พล.ท.โอเล็กซานดร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นของยูเครน ณ ขณะนั้น บอกว่าการป้องกันตนเองยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ แม้เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของปฏิบัติการรุกคืบเพิ่มเติม
"เป้าหมายของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง รักษาฐานที่มั่นของเรา สร้างความเหนื่อยล้าแก่ศัตรู ด้วยการก่อความสูญเสียให้มากที่สุด" ซีร์สกี กล่าว ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ของยูเครนแทนนายพลวาเลอรี ซาลุซนี โดยการเปลี่ยนตัวผู้นำทัพครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวลือมานานหลายเดือนว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี บาดหมางกับนายพลซาลุซนี ผู้เป็นวีรบุรุษของชาติในสายตาของชาวยูเครนจำนวนมาก
พวกนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจเป็นบททดสอบศักยภาพของอุตสาหกรรมอาวุธอันใหญ่โตของรัสเซีย ในการผลิตรถถังใหม่ๆ และอาวุธอื่นๆ ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
รายงานของ Military Balance เน้นว่าพวกผู้บริหารอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซีย เคยคุยโวเกี่ยวกับกำลังผลิตด้านการทหาร ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัสเซียเพิ่งเผยถึงแผนการกลับมาเดินสายการผลิตรถถัง T-80
"มันเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ" อเล็กซานเดอร์ นีลล์ นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมที่มีสำนักงานในสิงคโปร์กล่าว อ้างถึงคำกล่าวอ้างที่ว่ารัสเซียสูญเสียรถถังไปราว 3,000 คัน "บางส่วนในนั้นอาจเป็นรถถังรุ่นเก่า ดังนั้นคำถามตัวโตก็คือพวกเขายังเหลือรถถังล้ำสมัยที่สุดมากน้อยแค่ไหนสำหรับปฏิบัติการรุกรานครั้งใหญ่ใดๆ ในอนาคต
(ที่มา : รอยเตอร์)
