ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุวานนี้ (19 ธ.ค.) ว่ารัสเซียพร้อมที่จะพูดคุยกับทั้งยูเครน สหรัฐฯ และยุโรป เกี่ยวกับอนาคตของยูเครนหากทั้ง 3 ฝ่ายต้องการ แต่ก็ย้ำชัดว่ามอสโกจะยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
ปูติน ซึ่งส่งทหารรุกรานดินแดนของยูเครนเมื่อต้นปี 2022 ออกมาพูดอยู่เสมอว่าพร้อมจะเจรจาสันติภาพ แต่เจ้าหน้าที่ตะวันตกส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้นำหมีขาวจะยังไม่พยายามอย่างจริงจัง จนกว่าจะทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ปี 2024 เสียก่อน
“พวกที่มีนโยบายก้าวร้าวต่อรัสเซียทั้งในยูเครน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้องการเจรจางั้นหรือ? ก็มาสิ แต่เราจะพูดคุยโดยอิงกับผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก” ปูติน กล่าวในการประชุมผู้นำฝ่ายกลาโหมที่กรุงมอสโก
ผู้นำหมีขาวย้ำว่า “เราจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งที่เป็นของเรา” ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้ต้องการทำสงครามกับยุโรป
ปัจจุบันกองทัพรัสเซียได้เข้าไปยึดครองพื้นที่ราว 17.5% ที่นานาชาติรับรองว่าเป็นดินแดนของยูเครนภายหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายลงในปี 1991
รัสเซียประกาศผนวกคาบสมุทรไครเมียเมื่อปี 2014 และปีที่แล้วก็อ้างว่าแคว้นทั้ง 4 ของยูเครนที่ทหารหมีขาวสามารถยึดเอาไว้ได้บางส่วนเป็นดินแดนของรัสเซียแล้ว ขณะที่รัฐบาลเคียฟยืนกรานว่าจะสู้ไม่ถอยจนกว่าจะขับไล่ทหารรัสเซียคนสุดท้ายออกไปพ้นจากดินแดนยูเครน
ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลาโหมซึ่งมีบรรดานายพลระดับสูงเข้าร่วมพร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึง เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม, พล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหาร และ อเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงกลาง (FSB) ปูติน กล่าวว่า “เราจะไม่ละทิ้งเป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่ากองทัพรัสเซียจำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อสาร งานสอดแนม การกำหนดเป้าหมาย และศักยภาพด้านดาวเทียม
ปูติน กล่าวด้วยว่า อุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซียสามารถผลิตยุทธภัณฑ์ตอบสนองความจำเป็นของกองทัพได้เร็วกว่าฝ่ายตะวันตก และรัสเซียยังคงจะเดินหน้าอัปเกรดกองกำลังนิวเคลียร์ รวมถึงอยู่ในสภาวะ “พร้อมรบขั้นสูง” ตลอดเวลา
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียระบุว่า กำลังผลิตรถถังของรัสเซียเพิ่มขึ้น 5.6 เท่าตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2022 ส่วนกำลังการผลิตอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และกระสุนปืนใหญ่ก็เพิ่มขึ้น 16.8 และ 17.5 เท่าตามลำดับ
ชอยกู ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัสเซียรับทหารสัญญาจ้างและทหารอาสาเข้าสู่กองทัพรวมทั้งสิ้น 490,000 นายในปี 2023 และในปีหน้าก็จะพยายามเพิ่มจำนวนทหารสัญญาจ้างให้ได้ถึง 745,000 นาย
กองทัพรัสเซียได้มีการวางทุ่นระเบิดในยูเครนครอบคลุมพื้นที่ถึง 7,000 ตารางกิโลเมตร โดยบางจุดมีความกว้างถึง 600 เมตร รวมถึงมีการติดตั้งแบร์ริเออร์ต่อต้านรถถังอีก 1.5 ล้านตัว และสร้างคูน้ำต่อต้านรถถังไว้เป็นระยะทางอีก 2,000 กิโลเมตร ตามข้อมูลของ ชอยกู
ปูติน ยังเอ่ยถึงความพยายามของยูเครนที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) โดยระบุว่า การเข้าร่วมนาโตของยูเครน “คือสิ่งที่รัสเซียรับไม่ได้ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า แม้แต่ 20 ปีก็ไม่ได้”
ที่มา: รอยเตอร์