“เซเลนสกี้”ลั่นไม่มีใครบอกได้ สงครามกับรัสเซียจะจบภายในปีหน้าหรือไม่ แต่ยังแสดงความมั่นใจว่าอเมริกาจะไม่หักหลังเลิกอัดฉีดเงินช่วยเหลือ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานผู้นำรีพับลิกันและเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯออกมาระบุ คงไม่สามารถอนุมัติแพ็คเกจใหม่ให้ยูเครนภายในสิ้นปีนี้ได้ ในทางตรงกันข้าม “ปูติน”ประกาศรัสเซียจะเป็นฝ่ายมีชัย และจะไม่ล้มเลิกเป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเด็ดขาด
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน กล่าวระหว่างการพบปะกับผู้สื่อข่าวในและนอกประเทศเมื่อวันอังคาร (19 ธ.ค.) ว่า ได้ปฏิเสธการร้องขอของกองทัพที่ต้องการเกณฑ์ทหารเพิ่มอีก 500,000 นาย ซึ่งเห็นกันว่าเป็นข้อเรียกร้องที่อาจฉุดคะแนนนิยมในตัวผู้นำยูเครนผู้นี้ให้ตกต่ำกว่าเดิม
สำหรับคำถามว่า สงครามกับรัสเซียจะจบลงภายในปีหน้าหรือไม่นั้น เซเลนสกี้ ตอบว่า ไม่มีใครรู้คำตอบ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่เป็นที่เคารพ ผู้บัญชาการทหารยูเครน หรือพันธมิตรตะวันตกก็ตาม
คำถามเกี่ยวกับการสนับสนุนของตะวันตกยังดูเหมือนเร่งด่วนมากขึ้น ขณะที่เหล่าพันธมิตรแสดงอาการเหนื่อยล้ากับสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปีมากขึ้นทุกที
สัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกี้เดินทางเยือนหลายประเทศตะวันตกเพื่อขอการสนับสนุนทางทหารและการเมือง ทว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ให้อนุมัติแพ็คเกจความช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ได้ทันที ขณะที่วิกเตอร์ ออร์บัน ผู้นำฮังการี ก็ขวางสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ให้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 55,000 ล้านดอลลาร์ให้เคียฟ
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี้กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ต้องการนัดหารือกับออร์บันเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน อีกทั้งยังแสดงความมั่นใจว่า อเมริกาจะไม่ทรยศ และจะจัดหาความช่วยเหลือให้ยูเครนต่อไปตามที่รับปากไว้
ทว่า หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำเดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯประกาศว่า สภาคงไม่สามารถอนุมัติความช่วยเหลือก้อนใหม่ให้ยูเครนได้ทันภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากยังมีประเด็นที่ต้องเจรจาต่อรองกันอยู่
เซเลนสกี้ยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งของอเมริกาที่จะจัดขึ้นในปีหน้าอาจมีนัยสำคัญต่อสงครามในยูเครน เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งจากพรรครีพับลิกัน ประกาศชัดเจนว่า มีนโยบายแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต
ในทางกลับกัน ระหว่างประชุมกับพวกเจ้าหน้าที่กลาโหมของเขาที่กรุงมอสโกเมื่อวันอังคาร (19) เช่น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศว่า รัสเซียจะเป็นฝ่ายมีชัยและคนรัสเซียสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
ปูตินที่ประกาศลงเลือกตั้งอีกสมัยในเดือนมีนาคมปีหน้า ยังโจมตีตะวันตกว่า พยายามทำลายรัสเซีย ถึงแม้เขาเน้นว่ารัสเซียไม่ได้ต้องการทำสงครามกับยุโรป รวมทั้งย้ำว่า มอสโกจะไม่ล้มเลิกเป้าหมายของการปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
เขาบอกว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับทั้งยูเครน สหรัฐฯ และยุโรป เกี่ยวกับอนาคตของยูเครนหากทั้ง 3 ฝ่ายต้องการ แต่ก็ย้ำชัดว่ามอสโกจะยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ โดย “เราจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งที่เป็นของเรา”
ปูติน ยังเอ่ยถึงความพยายามของยูเครนที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) โดยระบุว่า การเข้าร่วมนาโตของยูเครน “คือสิ่งที่รัสเซียรับไม่ได้ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า แม้แต่ 20 ปีก็ไม่ได้”
ในด้านอื่นๆ ผู้นำทำเนียบเครมลินย้ำว่ากองทัพรัสเซียจำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อสาร งานสอดแนม การกำหนดเป้าหมาย และศักยภาพด้านดาวเทียม
ปูติน กล่าวด้วยว่า อุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซียสามารถผลิตยุทธภัณฑ์ตอบสนองความจำเป็นของกองทัพได้เร็วกว่าฝ่ายตะวันตก และรัสเซียยังคงจะเดินหน้าอัปเกรดกองกำลังนิวเคลียร์ รวมถึงอยู่ในสภาวะ “พร้อมรบขั้นสูง” ตลอดเวลา
ด้านรัฐมนตรีกลาโหม เซียร์เก ชอบกู ของรัสเซียซึ่งเข้าร่วมประชุมคราวนี้ด้วย ระบุว่า กำลังผลิตรถถังของรัสเซียเพิ่มขึ้น 5.6 เท่าตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2022 ส่วนกำลังการผลิตอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และกระสุนปืนใหญ่ก็เพิ่มขึ้น 16.8 และ 17.5 เท่าตามลำดับ
ชอยกู ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัสเซียรับทหารสัญญาจ้างและทหารอาสาเข้าสู่กองทัพรวมทั้งสิ้น 490,000 นายในปี 2023 และในปีหน้าก็จะพยายามเพิ่มจำนวนทหารสัญญาจ้างให้ได้ถึง 745,000 นาย
ตามข้อมูลของชอยกู กองทัพรัสเซียยังมีการวางทุ่นระเบิดในยูเครนครอบคลุมพื้นที่ถึง 7,000 ตารางกิโลเมตร โดยบางจุดมีความกว้างถึง 600 เมตร รวมถึงมีการติดตั้งแบร์ริเออร์ต่อต้านรถถังอีก 1.5 ล้านตัว และสร้างคูน้ำต่อต้านรถถังไว้เป็นระยะทางอีก 2,000 กิโลเมตร
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)