xs
xsm
sm
md
lg

อาการน่าเป็นห่วง! ทหารแนวหน้าของยูเครนขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่สู้รัสเซีย หลังความช่วยเหลือต่างชาติชักกะปริบกะปรอย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารยูเครนใช้ยานวิศวกรรมทหาร เอ็มดีเค-3 (MDK- 3 military engineering vehicle) ขุดคูต่อสู้รถถัง ในพื้นที่ใกล้ๆ ชายแดนเบลารุส เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2023
กองทหารยูเครนที่อยู่ในแนวหน้าของการสู้รบกับรัสเซีย ต้องประสบปัญหาขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่และได้ลดระดับปฏิบัติทางทหารลงบางส่วน สืบเนื่องจากความช่วยเหลือที่ได้รับจากต่างชาตินั้นไม่เพียงพอ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงนายพลระดับอาวุโสรายหนึ่งของกองทัพเคียฟ

นายทหารคนดังกล่าว ซึ่งก็คือ พลจัตวา โอเล็กซานด์ร ทาร์นาฟสกี พูดเรื่องนี้ภายหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาบรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯสังกัดรีพับลิกัน เตะถ่วงแพคเกจความช่วยเหลือ 60,000 ล้านดอลลาร์ที่คณะบริหารไบเดนเตรียมมอบให้ยูเครน ส่วนฮังการีก็ขัดขวางไม่ให้สหภาพยุโรปผ่านงบประมาณ 50,000 ล้านยูโร ซึ่งอียูเตรียมจัดสรรแก่เคียฟ สำหรับนำไปสู้รบต้านทานการรุกรานของรัสเซีย

"มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเครื่องกระสุน โดยเฉพาะพวกกระสุน (สำหรับใช้กับปืนใหญ่) ยุคหลังสหภาพโซเวียต ซึ่งก็คือขนาด 122 มม.และ152 มม. และเวลานี้ปัญหานี้ปรากฏอยู่ทั่วทุกแนวหน้าทั้งหมด" เขากล่าวเช่นนี้ในการให้สัมภาษณ์รอยเตอร์

ทาร์นาฟสกี บอกว่าการขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ "เป็นปัญหาใหญ่มาก" และเงินช่วยเหลือด้านการทหารจากต่างชาติที่ลดลง กำลังส่งผลกระทบในสมรภูมิรบ

"ปริมาณที่เรามีในวันนี้ ไม่เพียงพอสำหรับเราในวันนี้ เมื่อพิจารณาจากความจำเป็นของเรา ดังนั้นเราจึงกำลังจัดสรร (เครื่องกระสุนที่มีอยู่กัน) ใหม่ เรากำลังวางแผนเกี่ยวกับภารกิจต่างๆ ที่เรากำหนดเอาไว้สำหรับพวกเรากันเสียใหม่ ทำให้มันมีขนาดเล็กลงมา เนื่องจากเราจำเป็นที่จะต้องจัดหา (เครื่องกระสุน) สำหรับการทำภารกิจเหล่านั้น” เขากล่าวโดยไม่ได้อธิบายรายละเอียด

ความเห็นเช่นนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า เคียฟต้องพึ่งพิงความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกมากแค่ไหน ในการสู้รบกับกองทัพรัสเซียตลอดทั่วทั้งแนวหน้าซึ่งครอบคลุมระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ในขณะที่การสู้รบขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 คราวนี้ได้ลากยาวมาเป็นเวลาเกือบ 22 เดือนแล้ว

นายพลผู้นี้อ้างว่ากองกำลังฝ่ายรัสเซียก็กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับเครื่องกระสุนเช่นกัน แต่ไม่ได้กล่าวเจาะจงถึงลักษณะของปัญหาที่ฝ่ายรัสเซียต้องเผชิญ

ทาร์นาฟสกี ยอมรับว่ากองทหารยูเครนที่อยู่ในอาการอิดโรย ในบริเวณแนวหน้าด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ต้องกลายมาเป็นฝ่ายตั้งรับในบางพื้นที่ แต่เขายืนยันว่าในพื้นที่อื่นๆ ทางยูเครนยังคงกำลังพยายามเป็นฝ่ายบุกโจมตี

กองกำลังฝ่ายยูเครนยังคงคาดหวังที่จะได้รับชัยชนะ แต่จะต้องได้กำลังกองหนุนเข้ามาผลัดเปลี่ยนเพื่อที่พวกเขาจะได้พักกันบ้าง เขากล่าว

“ในบางพื้นที่ เราหันไป (เป็นฝ่ายรับ) แต่ในบางพื้นที่เรายังคงเดินหน้าปฏิบัติการรุกโจมตีของเรา – ด้วยการดำเนินกลยุทธ์, ยิงใส่ข้าศึก, และเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แล้วเรายังกำลังตระเตรียมกำลังกองหนุนของเราสำหรับการปฏิบัติการขนาดใหญ่ในเวลาต่อไปของเราอีกด้วย” เขาคุย

ทาร์นาฟสกี ผู้บังคับการของกลุ่มปฏิบัติการทาฟเรีย เป็นแกนนำในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ ที่บีบให้ทหารรัสเซียต้องถอยร่นออกจากเมืองเคียร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน และจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร เมื่อเดือนพฤศจิกายน2022 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในสมรภูมิรบสำคัญครั้งสุดท้ายของฝ่ายยูเครน

นอกจากนี้แล้ว เขายังมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการรุกครั้งใหญ่กว่านั้นอีกในแคว้นซาโปริซเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในช่วงกลางปีนี้ ทว่ามันแทบไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยเมื่อต้องเผชิญกับแนวคูสนามเพลาะและทุ่งกับระเบิดที่รัสเซียวางไว้เป็นบริเวณกว้างขวาง

รัสเซียนั้นอยู่ระหว่างปฏิบัติการรุกในทางตะวันออก และกำลังพยายามปิดล้อมอัฟดิอิฟกา เมืองยุทธศาสตร์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งพลจัตวาทาร์นาฟสกี ทำหน้าที่ควบคุมดูแลแนวป้องกัน

“เจตนารมณ์ของพวกเขา (กองกำลังรัสเซีย) ยังคงอยู่ (เหมือนเดิม) สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือการปฏิบัติการของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงยุทธวิธี ... การโจมตีจะกระทำแบบสม่ำเสมอ” เขาบอก

สถานการณ์ในอัฟดิอิฟกากำลังเปลี่ยนแปลงไป “ทุกๆ วันและทุกๆ คืน” โดยที่กองกำลังรัสเซียกำลังปรับเปลี่ยนยุทธวิธีของพวกเขาอยู่เป็นประจำ โดยกำลังได้รับ “ความสำเร็จเป็นบางส่วนในบางพื้นที่ (สามารถบุก) ลึกเข้ามาราว 1.5 ถึง 2 กิโลเมตร” เขาบอก

“ผมเชื่อว่าเรากำลังรักษาแนวรบเหล่านี้เอาไว้ได้อย่างมั่นคงในวันนี้” เขากล่าว “วันนี้ ข้าศึกกำลังกดดันเราด้วยจำนวนของพวกเขา พวกเขาไม่เคยใส่ใจและก็จะไม่ใส่ใจเกี่ยวกับบุคลากรของพวกเขาหรอก”

อัฟดิฟกา ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจุดมุ่งหมายของรัสเซียที่กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้สามารถเข้าควบคุมอย่างเต็มที่ใน 2 แคว้นทางภาคตะวันออก ซึ่งได้แก่โดเนตสก์และลูฮันสก์ อันเป็น 2 ใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียได้ประกาศผนวกเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศตนไปแล้ว แม้ยังไม่อาจควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับในปีนี้ยังไม่มีฝ่ายใดที่สามารถช่วงชิงดินแดนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการสู้รบส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะของสงครามพร่ากำลังที่ยืดเยื้อและสร้างความเสียหายหนักหน่วงแก่ทั้งสองฝ่าย

(ที่มา: รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น