‘เซเลนสกี’ บินมาหารือ ‘ไบเดน’ ที่วอชิงตันวันอังคาร (12 ธ.ค.) หาทางโน้มน้าวรีพับลิกันเลิกขวางงบประมาณก้อนใหม่อัดฉีดยูเครนสู้สงครามกับรัสเซีย ขณะความช่วยเหลือที่มีอยู่กำลังจะหมดลงในไม่กี่สัปดาห์ ทั้งนี้ ความขัดแย้งในรัฐสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นนี้ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเวลานี้ความสนับสนุนของตะวันตกที่ให้แก่เคียฟได้เสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงในวันอาทิตย์ (10) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จะหารือกันที่กรุงวอชิงตันในวันอังคาร (12) เกี่ยวกับความต้องการอันเร่งด่วนของยูเครนในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย รวมทั้งความสำคัญยิ่งยวดที่อเมริกาจะต้องให้การสนับสนุนเคียฟต่อไปในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้
ทางด้านผู้นำยูเครนกล่าวในคำแถลงของฝ่ายตนว่า การหารือจะมุ่งเน้นประเด็นสำคัญ เช่น โครงการร่วมมือผลิตอาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศ ตลอดจนถึงการประสานความพยายามระหว่างสองประเทศในปีหน้า
นอกเหนือจากพบกับไบเดนแล้ว ทางด้าน ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกันก็แถลงว่าได้นัดหมายหารือกับเซเลนสกีเช่นกัน ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เชื้อเชิญประธานาธิบดียูเครนกล่าวปราศรัยกับสมาชิกเต็มคณะของสภาสูงในช่วงเช้าวันเดียวกัน
ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงแรงคัดค้านการให้งบช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติมของพวกสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาล่างซึ่งนำโดยประธานจอห์นสันเอง คณะบริหารไบเดนจึงเลือกนำงบก้อนนี้ที่มีมูลค่าราว 61,000 ล้านดอลลาร์ มารวมเป็นก้อนเดียวกันกับงบช่วยเหลืออิสราเอล 14,000 ล้านดอลลาร์ ตลอดจนงบประมาณเพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดนเม็กซิโก รวมแล้วเป็นมูลค่าราว 110,000 ล้านดอลลาร์ และเสนอเข้าไปให้วุฒิสภาพิจารณาอนุมัติก่อน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่ากลับไม่ได้ผลอย่างที่พวกเขาคาดหวัง
ทั้งนี้ การบรรยายสรุปสถานการณ์ยูเครนแบบเป็นการลับแก่บรรดาวุฒิสมาชิกของพวกเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะบริหารไบเดนเมื่อวันอังคาร (5) ปรากฏว่าดำเนินไปไม่เท่าใด พวก ส.ว.ของพรรครีพับลิกันก็พากันวอล์กเอาต์ และทำให้ต้องยกเลิกรายการซึ่งเซเลนสกีจะพูดจากับบรรดาวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ผ่านทางออนไลน์ไปด้วย
จากนั้นในการประชุมวุฒิสภาวันพุธ (6) เมื่อฝ่ายเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากแบบเฉียดฉิว พยายามผลักดันให้ที่ประชุมเริ่มพิจารณาร่างงบประมาณเร่งด่วนฉบับรวมมิตรนี้ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับจำเป็นต้องได้เสียงถึง 60 จาก ส.ว.เต็มสภาซึ่งมี 100 คน ก็ปรากฏว่าถูก ส.ว.รีพับกันรวมตัวคัดค้านจนได้เสียงไม่เพียงพอ โดยที่ฝ่ายรีพับลิกันมีท่าทีมุ่งต่อรองให้ไบเดน และเดโมแครตต้องยินยอมอ่อนข้อเรื่องเพิ่มมาตรการควบคุมการอพยพเข้าสหรัฐฯ ผ่านชายแดนเม็กซิโก
การตอบโต้ของรีพับลิกันเช่นนี้ เห็นกันว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำของไบเดน ที่มุ่งรณรงค์ให้ช่วยเหลือยูเครนต่อไป โดยเตือนว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะไม่ยอมหยุดแค่ชัยชนะในยูเครนเท่านั้น แต่อาจโจมตีชาติสมาชิกในยุโรปรายอื่นๆ ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ในวันอาทิตย์ (10 ธ.ค.) ชาแลนดา ยัง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาว ยังคงออกมาย้ำความกังวลของคณะบริหารไบเดน ในรายการเฟซ เดอะ เนชันของเครือข่ายทีวีซีบีเอส โดยเตือนว่า ชะตากรรมของยูเครนนั้นมีอิทธิพลต่อความมั่นคงของอเมริกา เนื่องจากหากปูตินโจมตีชาติสมาชิกนาโตต่อไป ก็มีความเสี่ยงที่อเมริกาอาจถูกดึงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้น
ทว่า รีพับลิกันไม่ได้มีท่าทีตื่นตกใจไปด้วย เช่น ส.ว. เจดี แวนซ์ ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่วิจารณ์ผ่านทีวีซีเอ็นเอ็นว่า ไอเดียที่ว่า ปูตินจะทำให้ประเทศนาโตในยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงเป็นเรื่องน่าขัน และย้ำว่า เขาต่อต้านการเขียน “เช็คเปล่า” ให้ยูเครน นอกเสียจากว่าคณะบริหารจะอธิบายได้ว่า ความช่วยเหลือก้อนใหม่ 61,000 ล้านดอลลาร์จะไปช่วยทำให้ความช่วยเหลือในอดีตที่ผ่านมารวมๆ กันแล้วก็เป็นราว 100,000 ล้านดอลลาร์ บรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
แวนซ์สำทับว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกาคือ ยอมรับว่า ยูเครนจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อให้สงครามยุติลง
ความขัดแย้งในรัฐสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับการอัดฉีดยูเครนตอกย้ำสัญญาณว่า การสนับสนุนของตะวันตกกำลังเสื่อมถอยลง ขณะที่ปฏิบัติการโต้ตอบของเคียฟล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และกองกำลังรัสเซียรุกไล่เข้ายึดดินแดนต่อ
เมื่อต้นเดือนนี้ ปูตินได้ลงนามกฤษฎีกาเพิ่มกำลังทหารของรัสเซียขึ้นอีก 15% หรือราว 170,000 นาย และเมื่อเร็วๆ นี้รัสเซียยังได้ลงนามเอกสารระบุถึงข้อตกลงสันติภาพที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงกำหนดให้ยูเครนเป็นประเทศเป็นกลาง ซึ่งไม่มีทางที่เซเลนสกีจะยอมรับ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่แล้ว (6) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศความช่วยเหลือชั่วคราวก้อนใหม่ให้ยูเครนเป็นมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการจัดส่งจรวด HIMARS กระสุนปืนใหญ่ ขีปนาวุธ และเครื่องกระสุนอื่นๆ
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์)