บรรดาชาติสมาชิกนาโต รวมถึงอเมริกา เมื่อวันพุธ (11 ต.ค.) รับประกันกับ “เซเลนสกี” ซึ่งเดินทางไปเยือนถึงสำนักงานใหญ่กลุ่มพันธมิตรทางทหารแห่งนี้ที่กรุงบรัสเซลส์เป็นครั้งแรกว่า จะยังคงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟต่อไปขณะที่ฤดูหนาวยามสงครามอันยากลำบากเวียนมาถึงอีกครั้ง ถึงแม้ความสนใจของโลกตะวันตกเวลานี้เปลี่ยนโฟกัสไปที่เรื่องผลพวงจากการที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวกลับออกตัวว่า เงินช่วยเหลือยูเครนที่คองเกรสอนุมัติเอาไว้ก่อนหน้านี้ กำลังร่อยหรอลงใกล้หมดสิ้น เว้นแต่สมาชิกรัฐสภาอนุมัติเพิ่มโดยเร็ว
เหล่ารัฐมนตรีกลาโหมของนาโต ให้ความมั่นใจดังกล่าวกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ไปเยือนสำนักงานใหญ่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในกรุงบรัสเซลส์ เป็นครั้งแรกนับจากรัสเซียยกทัพบุกยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
การเยือนของเซเลนสกีเกิดขึ้นท่ามกลางฉากหลังของสถานการณ์วุ่นวายในตะวันออกกลาง ภายหลังกลุ่มนักรบฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่แบบไม่ทันให้ตั้งตัว รวมทั้งเกิดความปั่นป่วนในรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ทำให้มีการระงับการอนุมัติความช่วยเหลือยูเครนก้อนใหม่ๆ เอาไว้ก่อนในขณะนี้
เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต แสดงความมั่นใจว่า ชาติสมาชิกจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครนเช่นเดียวกับการสนับสนุนผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเอง และยืนยันว่า นาโตมีศักยภาพและความแข็งแกร่งในการจัดการความท้าทายหลายอย่างพร้อมกัน
ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ขานรับว่า อเมริกาสามารถให้การสนับสนุนทั้งยูเครนและอิสราเอล และจะสนับสนุนต่อไปตราบเท่าที่ยังเป็นที่ต้องการ
กระนั้น ภายหลังร่วมประชุมกับกลุ่มชาติพันธมิตรกลาโหมที่ให้ความช่วยเหลือยูเครน ซึ่งคราวนี้จัดขึ้นที่บรัสเซลส์ เซเลนสกีแถลงว่า ยินดีกับการรับรองของนาโต แต่ยอมรับว่า เรื่องนี้ยังคงไม่แน่นอน
เซเลนสกีย้ำว่า ยูเครนต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม เพื่อรับมือการโจมตีของรัสเซียที่พุ่งเป้ามายังโครงข่ายไฟฟ้าในช่วงที่ฤดูกาลเข้าสู่ช่วงหนาวเย็นที่สุดในรอบปี ตลอดจนพวกปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้องรวมทั้งเครื่องกระสุนเพื่อให้ทหารเคียฟสามารถสู้รบตลอดฤดูหนาว
เขาสำทับว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศในฤดูหนาว คือส่วนหนึ่งของคำตอบต่อคำถามที่ว่า เมื่อไรสงครามนี้จะสิ้นสุดลงและจะสิ้นสุดลงอย่างยุติธรรมสำหรับยูเครนหรือไม่
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมคราวนี้ เยอรมนีประกาศแพกเกจความช่วยเหลือยูเครนสำหรับฤดูหนาวมูลค่าราว 1,100 ล้านดอลลาร์ที่รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่ๆ ขณะที่กลุ่มประเทศที่นำโดยอังกฤษเตรียมจัดส่งอุปกรณ์เก็บกู้ระเบิดให้ นอกจากนั้น เดนมาร์กและเบลเยียมยังรับปากจัดหาเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 แต่กำหนดส่งมอบของเบลเยียมคือปี 2025
ทางด้านอเมริกานั้น ออสตินประกาศเมื่อวันพุธเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางทหารใหม่มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงเครื่องกระสุนสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ และอาวุธเพื่อต่อต้านโดรนรัสเซีย
ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้วอชิงตันจัดหาการสนับสนุนให้เคียฟรวมมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ ทว่า ขณะนี้สมาชิกรัฐสภาของทั้งสองพรรคใหญ่ แสดงอาการถอดใจกันมากขึ้นกับการสนับสนุนเคียฟต่อไปเรื่อยๆ
จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า เงินช่วยเหลือสำหรับยูเครนที่รัฐสภาอนุมัติเอาไว้ก่อนหน้านี้กำลังจะหมดลง ยกเว้นแต่คองเกรสจะอนุมัติเงินสนับสนุนก้อนใหม่ๆ
ถึงแม้เมื่อวันอังคาร (10 ต.ค.) โฆษกเพนตากอนยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า อเมริกามีความสามารถในการคงการสนับสนุนทั้งยูเครน อิสราเอล และคงการเตรียมพร้อมระดับโลกได้ แต่เคอร์บี้ออกตัวว่า เงินช่วยเหลือยูเครนที่คองเกรสอนุมัติก่อนหน้านี้ “จะไม่คงอยู่ตลอดไป” และสมาชิกรัฐสภาจะต้องอนุมัติเพิ่มเติมโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อยู่ในภาวะขาดผู้นำมาตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (3 ต.ค.) ที่เควิน แมคคาร์ธี กลายเป็นประธานสภาล่างคนแรกของสหรัฐฯ ที่ถูกโหวตให้พ้นตำแหน่ง จากข้อกล่าวหาว่าเขาแอบไปตกลงกับทำเนียบขาวซึ่งเป็นพวกพรรคเดโมแครตเพื่อจะดำเนินการอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มให้ยูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์, อาร์ที)