กองทัพยูเครนกำลังจะหมดทั้งกระสุนและอาวุธในเร็วๆ นี้ หากพวก ส.ส.สายแข็งของรีพับลิกันยังคงขัดขวางงบให้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่เป็นการบ่อนทำลายปฏิบัติการรุกตอบโต้ของเคียฟ และลดความสามารถในการป้องกันตัวเองของพวกเขาจากการโจมตีของรัสเซีย บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวเตือนวันจันทร์ (2 ต.ค.) ด้านเพนตากอนสำทับว่า การจำกัดงบประมาณช่วยเหลืออาจส่งผลร้ายทั้งต่อทหารยูเครนและกองทัพอเมริกันเองด้วย
พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯไล่ขึ้นมาจนถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงย้ำว่า วอชิงตันจะสนับสนุนเคียฟไม่ว่ายาวนานเพียงใด และได้ให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแล้วกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์นับจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หรือกว่าครึ่งที่เคียฟได้รับจากชาติตะวันตกทั้งหมด
ทว่าเมื่อวันเสาร์ (30 ก.ย.) ไบเดนต้องยอมลงนามประกาศใช้ร่างกฎหมายประนีประนอมชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลกลาง ซึ่งผลักดันโดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่พรรครีพับลิกันควบคุมอยู่ โดยที่ในร่างดังกล่าวนี้ได้ตัดทิ้งเงินช่วยเหลือยูเครนก้อนใหม่ตามข้อเรียกร้องของพวก ส.ส.รีพับลิกันสายขวาจัด เรื่องนี้ทำให้มองกันว่า ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของอเมริกาต่อยูเครนไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับประกันได้อีกต่อไป
มาร์ก แคนเซียน ที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) หน่วยงานคลังสมองชื่อดังในกรุงวอชิงตัน เตือนว่า ถ้าความช่วยเหลือจากอเมริกาชะงักงันจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้แก่ยูเครน เพราะกองทัพยูเครนจะอ่อนแอลงและอาจล่มสลายในที่สุด แม้อาจยังอาจยันอยู่ได้ระยะหนึ่งก็ตาม
ที่ผ่านมาอเมริกาคือชาติแข็งขันที่สุดในการจัดหาอาวุธและเครื่องกระสุนมากมายหลากหลายประเภทให้เคียฟต่อสู้เพื่อชิงดินแดนคืนจากรัสเซีย ตั้งแต่กระสุนปืนพก กระสุนปืนใหญ่ ไปจนถึงยานยนต์ ฐานยิงจรวดที่ซับซ้อน รถถัง และอุปกรณ์เก็บกู้กับระเบิด
อย่างไรก็ตาม แคนเซียนเสริมว่า ถ้าอเมริกายุติการช่วยเหลือโดยสิ้นเชิงซึ่งเป็นสิ่งที่ทำเนียบขาวยืนยันว่าจะไม่เกิดขึ้นนั้น ผลกระทบจะไม่ปรากฏในทันทีเนื่องจากความช่วยเหลือที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้ยังจัดส่งให้ยูเครนไม่หมด แต่อาจใช้เวลาราว 2-3 สัปดาห์จึงจะเห็นผลกระทบในสนามรบ ถึงแม้เขายังมองโลกแง่ดีว่า เนื่องจากรัสเซียก็อยู่ในสภาพอ่อนล้าเช่นกัน จึงอาจฉกฉวยประโยชน์อะไรไม่ได้นัก
กระนั้น การยุติความช่วยเหลือของอเมริกายังอาจส่งผลให้เกิดช่องโหว่ในระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ประกอบด้วยระบบจากหลายประเทศครอบคลุมระดับความสูงต่างๆ กัน และต้องมีการจัดหาเครื่องกระสุนเพิ่มให้อย่างต่อเนื่อง
ระบบอาวุธเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนจากการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
เจมส์ แบล็ก ผู้ช่วยผู้อำนวยการของ แรนด์ ยุโรป กลุ่มบริษัทวิจัยด้านการทหารและความมั่นคง ชี้ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศแต่ละระบบไม่สามารถแทนที่กันได้
แบล็กเสริมว่า หลายสิบประเทศโดยเฉพาะในยุโรป ต่างให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และแม้สามารถเพิ่มการสนับสนุนได้ แต่การจัดหาอาวุธเพื่อทดแทนส่วนของวอชิงตันที่ขาดหาย ถือเป็นความท้าทายระยะยาวที่อาจต้องใช้เวลานานหลายปีหรืออาจหลายทศวรรษ ซึ่งยูเครนคงรอไม่ได้
เวลานี้ ไม่มีใครทราบแน่นอนว่า พรรครีพับลิกันที่คุมสภาล่างอยู่จะเดินเกมอย่างไรต่อไป ถึงแม้ไบเดนระบุว่า เควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาล่างซึ่งสังกัดรีพับลิกัน ให้คำมั่นที่จะผลักดันสภาผ่านร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนอีกฉบับหนึ่งเป็นการเฉพาะ ทว่าไม่ชัดเจนว่าตัวเลขความช่วยเหลือนี้จะเท่ากับราว 24,000 ล้านดอลลาร์ที่ไบเดนเสนอไว้หรือไม่ โดยที่แมคคาร์ธีย์ก็แถลงในวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ว่า ยูเครนจะได้รับความช่วยเหลือ ต่อเมื่ออเมริกามีโดรนรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนจากเม็กซิโกอย่างเพียงพอแล้วเสียก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งชะตากรรมของแมคคาร์ธีย์ก็ยังไม่มีความแน่นอน โดยในวันจันทร์ (2) แมตต์ เกตซ์ ส.ส.รีพับลิกันสายขวาจัด ได้ยื่นญัตติให้ปลดแมคคาร์ธีย์ออกจากตำแหน่งประธานสภาล่างแล้ว โดยคาดว่าทางสภาจะมีการลงมตินี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทางด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวร่วมนานาชาติเพื่อสนับสนุนยูเครนและประสานงานการให้ความช่วยเหลือ เรียกร้องเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้คองเกรสดำเนินการเพื่ออนุมัติความช่วยเหลือให้เคียฟ
นอกจากนั้นเอพียังรายงานเมื่อวันจันทร์ (2 ต.ค.) ว่า ไมเคิล แมคคอร์ด เจ้าหน้าที่สอบบัญชีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ยื่นหนังสือถึงผู้นำคองเกรสเตือนว่า ขณะนี้เพนตากอนถูกกดดันให้ชะลอการส่งกำลังบำรุงทหารอเมริกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของงบประมาณในอนาคต และหากไม่สามารถส่งกำลังบำรุงทหารได้ทันท่วงทีอาจส่งผลต่อความพร้อมของกองทัพ
แมคคอร์ดยังเสริมว่า ถ้าคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณที่ขอไป เพนตากอนอาจไม่สามารถจัดส่งอาวุธให้ยูเครนซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและเร่งด่วนในขณะนี้ เนื่องจากรัสเซียกำลังเตรียมการบุกโจมตีในฤดูหนาว
เขาสำทับว่า ขณะนี้เพนตากอนเหลืองบประมาณเพียง 1,600 ล้านดอลลาร์จากที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้ 25,900 ล้านดอลลาร์เพื่อส่งอาวุธใหม่ไปเปลี่ยนให้ยูเครน และอเมริกายังเหลืองบประมาณ 5,400 ล้านดอลลาร์สำหรับการจัดหายุทโธปกรณ์จากคลังอาวุธในประเทศเพื่อส่งให้เคียฟ
(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี)