ไม่มีความชัดเจนแน่นอนว่า ยูเครนจะยังคงได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ผู้หนุนหลังรายสำคัญอันดับหนึ่งของตนหรือไม่ หลังจากรัฐสภาอเมริกันถกวุ่นได้ข้อตกลงในนาทีสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยง “การชัตดาวน์” ด้วยการต้องแลกเปลี่ยนกับการหยุดพักการอัดฉีดให้เคียฟ ถึงแม้ “ไบเดน” พยายามยืนยันว่า ยูเครนจะได้สิ่งที่จำเป็นเพื่อสู้รบกับรัสเซียก็ตาม
เพียงหนึ่งสัปดาห์เศษหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เยือนกรุงวอชิงตันเป็นครั้งที่สองเพื่อขอควาสนับสนุนเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน รัฐสภาอเมริกันก็บรรลุข้อตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวแบบประนีประนอมเมื่อคืนวันเสาร์ (30 ก.ย.) โดยตัดรายการความช่วยเหลือสำหรับยูเครนออกไป หลังจากที่เรื่องนี้ถูกต่อต้านหนักจากพวกสมาชิกคองเกรสสายขวาจัดของพรรครีพับลิกัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพรรคเดโมแครต ระบุว่า อเมริกามีหน้าที่ช่วยยูเครนให้สามารถยืนหยัดสู้กับการรุกรานโหดเหี้ยมของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้ พร้อมเตือนว่า หากล้มเหลวจะเท่ากับเป็นการส่งเสริมผู้นำเผด็จการคนอื่นๆ ของโลกในอนาคต
ทว่า เวลานี้การช่วยเหลือยูเครนกลับกลายเป็นประเด็นสำหรับการต่อรองทางการเมืองในวอชิงตัน และความช่วยเหลือทางทหารที่สำคัญขณะนี้ตกอยู่ในความเสี่ยง ขณะที่เคียฟพยายามผลักดันปฏิบัติการรุกตอบโต้ซึ่งไม่ค่อยคืบหน้าอะไรอยู่แล้ว ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาเยือน
ในวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ไบเดนเรียกร้องเควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน “เลิกเล่นเกม” พร้อมแสดงความคาดหวังอย่างเต็มที่ว่า แมคคาร์ธีย์จะทำตามสัญญา นั่นคือจะผลักดันร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนที่ออกมาเป็นกฎหมายต่างหากอีกฉบับหนึ่ง ให้ผ่านความเห็นชอบของสภาเร็วๆ นี้
ไบเดนยังยืนยันระหว่างการปราศรัยจากทำเนียบขาวว่า ทั้งเหล่าชาติพันธมิตร อเมริกันชน และคนยูเครนสามารถพึ่งพิงการสนับสนุนของอเมริกาได้
วันเดียวกันนั้น ยูเครนก็พยายามปลุกปลอบขวัญ โดยอ้างว่ากำลังร่วมกับสหรัฐฯผู้เป็นหุ้นส่วนของตน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่สำหรับการทำสงคราม
ทางด้านโจเซฟ บอร์เรล ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้อียูร่วมมือกับอเมริกาในการให้ความช่วยเหลือยูเครน กล่าวให้ความเห็นว่า อียูเซอร์ไพรซ์กับข้อตกลงในนาทีสุดท้ายของรัฐสภาอเมริกัน และเสียดายอย่างสุดซึ้งกับการตัดสินใจดังกล่าว แต่ก็แสดงความวาดหวังว่า นั่นจะไม่ใช่การตัดสินใจเด็ดขาด และยูเครนจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาต่อไป
มอสโกตีปีก
เบร็ตต์ บรูเอน อดีตนักการทูตสหรัฐฯซึ่งเวลานี้เป็นประธานบริษัทที่ปรึกษา โกลบัล ซิตูเอชัน รูม ชี้ว่า เหตุการณ์นี้เป็นการส่งสัญญาณอันตรายถึงทั่วโลกว่า ไม่เฉพาะรีพับลิกันเท่านั้น แต่สมาชิกเดโมแครตบางคนก็ยินดีเสียสละยูเครนเพื่อการต่อรองทางการเมือง
เขาเสริมว่า ผู้นำในเคียฟน่าจะกังวลมาก ขณะที่มอสโกคงกำลังฉลองใหญ่กับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงสนับสนุนยูเครนของอเมริกาชักจืดจางลงแล้ว
ก่อนหน้านี้เคียฟวิตกอยู่แล้วกับความเป็นไปได้ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่เคยยกย่องปูติน อาจเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งปีหน้าและกลับสู่ทำเนียบขาว
สมาชิกระดับสูงของเดโมแครตกล่าวคาดหวังเมื่อวันเสาร์ว่า แมคคาร์ธีย์จะนำร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนฉบับแยกต่างหากเข้าสู่การพิจารณาของสภาในสัปดาห์นี้ แม้ยังไม่ชัดเจนว่า ตัวเลขสุดท้ายจะอยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ตามที่ไบเดนกำหนดไว้แต่แรกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้พูดง่ายกว่าทำ ขณะที่การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของยูเครนกลายเป็นเกมการเมืองอย่างชัดเจนในช่วงปีที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายน 2024 นอกจากนั้นยังมีการตั้งคำถามมากขึ้นเกี่ยวกับความช่วยเหลือยูเครนที่คองเกรสอนุมัติให้ไปแล้วหลายรอบรวมเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงการจัดหาอาวุธมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์
อุปสรรคด่านแรกเลยสำหรับแมคคาร์ธีร์ ได้แก่เรื่องที่ว่ากระทั่งอนาคตของตัวเขาเอง ก็ยังไม่แน่ไม่นอน โดย แมตต์ เกตซ์ ส.ส.ในสายแข็งกร้าวของรีพับลิกัน และเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มขวาจัดในพรรคที่ต่อต้านการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครนโดยสิ้นเชิง ประกาศว่าจะหาทางปลดแมคคาร์ธีร์ออกจากการเป็นประธานสภาล่างในสัปดาห์นี้
แมคคาร์ธีย์ พูดในรายการเฟซ เดอะ เนชั่น ของเครือข่ายทีวีซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ว่า ถ้าเขายังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ จะเดินหน้าผลักดันงบประมาณเพื่อหยุดยั้งการลักลอบข้ามแดนจากเม็กซิโก ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักของทางรีพับลิกัน
เขาเสริมว่า จะทำให้แน่ใจว่ามีการจัดหาอาวุธให้ยูเครน แต่คงไม่ใช่ล็อตใหญ่ ถ้าชายแดนสหรัฐฯ ยังไม่ปลอดภัย
ความเหนื่อยล้าจากสงคราม
แม้กระทั่งแมคคาร์ธีย์เห็นด้วยจริงๆ กับการช่วยเหลือยูเครน ซึ่งอาจใช้วิธีไปตกลงกับเดโมแครตแลกเปลี่ยนกับการช่วยให้เขาอยู่ในตำแหน่งประธานสภาล่างต่อ มันก็ยังคงมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอีก นั่นคือความเหนื่อยล้าจากสงคราม
เวลานี้ความสงสัยข้องใจกำลังแผ่ขยายจากพวกสมาชิกแข็งกร้าวของรีพับลิกัน ไปยังสมาชิกสายกลางในรัฐสภาที่บอกว่า จะไม่ให้เงินช่วยเหลือยูเครนในลักษณะ “ตีเช็คเปล่า” “โดยปราศจากมาตรการกำกับตรวจสอบอีกต่อไปแล้ว
ที่น่าเป็นห่วงสำหรับทั้งไบเดนและเคียฟก็คือ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ดูเหมือนมีความกังวลเรื่องการช่วยเหลือยูเครนเช่นเดียวกัน
ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งเครือข่ายทีวีเอบีซีนิส์/วอชิงตัน โพสต์เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ก.ย. พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 41% บอกว่า อเมริกาสนับสนุนยูเครนมากเกินไปแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 33% ในการสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และแค่ 12% ในเดือนเมษายน 2022
ปัญหานี้ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น จากการที่รีพับลิกันยื่นญัตติให้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อถอดถอนไบเดน จากกรณีการทำข้อตกลงทางธุรกิจของลูกชายของเขา คือ ฮันเตอร์ ไบเดน ในยูเครน
(ที่มา: เอเอฟพี, เอเจนซีส์)
