“เซเลนสกี” ประกาศข่าวรถถังหลัก “อะบรามส์” ของอเมริกาจัดส่งถึงยูเครนแล้ว วาดหวังช่วยกองกำลังเคียฟฝ่าแนวป้องกันของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากอเมริกาหลังจากนี้ดูเหมือนเผชิญศึกหนักในคองเกรส โดยเฉพาะจากฝั่งรีพับลิกันที่ล่าสุดมีการยื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะบริหารของไบเดนแจกแจงมูลค่าความช่วยเหลือที่แท้จริงที่มอบให้เคียฟ หลังพบว่า ข้อมูลที่ให้ต่างจากข้อมูลของสำนักงานกำกับตรวจสอบงบประมาณของทำเนียบขาวกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ (25 ก.ย.) ว่า อะบรามส์ ที่เป็นรถถังหลักของกองทัพสหรัฐฯ เวลานี้มาอยู่ในยูเครนแล้ว และกำลังเตรียมพร้อมเพื่อเสริมกำลังกองทัพยูเครน
ที่ผ่านมายูเครนเฝ้าร้องขออาวุธเพิ่มจากตะวันตก ซึ่งรวมถึงพวกขีปนาวุธยุทธวิธีที่มีพิสัยทำการไกลขึ้นเพื่อช่วยฝ่าแนวต้านของรัสเซีย และโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนที่รัสเซียยึดครอง
เซเลนสกีไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ได้รับรถถังรุ่นดังกล่าวกี่คัน หรือต้องใช้เวลาเตรียมการนานแค่ไหนจึงจะส่งไปยังแนวหน้าได้
ทั้งนี้ วอชิงตันให้สัญญาตั้งแต่ต้นปีนี้ที่จะจัดหารถถังอะบรามส์ 31 คันให้เคียฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมูลค่ากว่า 43,000 ล้านดอลลาร์ที่อเมริการับปากไว้นับจากที่มอสโกบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับความช่วยเหลือในอนาคตดูเหมือนเผชิญอุปสรรคมากขึ้นทุกที โดยเมื่อวันจันทร์ วุฒิสมาชิกเจดี แวนซ์ รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชิป รอย และแมตต์ เกตซ์ ซึ่งทั้งหมดสังกัดพรรครีพับลิกัน ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ แจกแจงความช่วยเหลือที่อเมริกาจัดหาให้ยูเครน หลังจากซัลลิแวนเปิดเผยมูลค่าความช่วยเหลือว่าอยู่ที่ 80,000 ล้านดอลลาร์ ทว่า สำนักงานการจัดการและงบประมาณ (โอเอ็มบี) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านงบประมาณและกำกับตรวจสอบการใช้งบประมาณของทำเนียบขาว กลับประเมินตัวเลขที่ 111,000 ล้านดอลลาร์ หรือต่างกันถึง 31,100 ล้านดอลลาร์ มากกว่าคำของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือยูเครนล่าสุดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสียอีก
สมาชิกรัฐสภาของฝ่ายรีพับลิกันทั้ง 3 คนสำทับว่า ได้ร้องขอข้อมูลละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อพิจารณาว่า มีการเพิ่มการใช้จ่ายในยูเครนที่ไม่ได้รายงานไว้หรือไม่ แต่โอเอ็มบีกลับไม่ได้รวมข้อมูลดังกล่าวให้ในคำตอบล่าสุด
เหตุการณ์นี้ยังมีขึ้นขณะที่กำลังมีการต่อสู้กันเรื่องงบประมาณอย่างดุเดือดในกรุงวอชิงตัน โดยสมาชิกรัฐสภาถกเถียงกันว่า จะรวมความช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับยูเครนรอบล่าสุดประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ เอาไว้ในร่างกฎหมายลดช่องว่างรายจ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลชัตดาวน์หรือไม่
จากรายงานของนิวยอร์กไทมส์นั้น สมาชิกรีพับลิกันบางคนคัดค้านการนำเอางบประมาณให้ความช่วยเหลือยูเครนมารวมไว้ เนื่องจากเชื่อว่าจะกลายเป็นตัวถ่วงเวลาความพยายามในการนำร่างกฎหมายนี้ผ่านทั้ง 2 สภา ก่อนเส้นตายในวันที่ 30 กันยายน ทั้งนี้หากถึงเส้นตายดังกล่าว รัฐสภายังไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการชั่วคราวเพื่อให้ยังมีงบประมาณใช้จ่ายไปพลางก่อน พวกหน่วยงานสังกัดรัฐบาลกลางจะต้องปิดตัวลงไม่สามารถทำงานได้ หรือที่เรียกกันว่า “ชัตดาวน์”
ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อวันจันทร์ว่า หากญัตติการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาภายในเส้นตาย จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการสู้รบในยูเครน และสำทับว่า วอชิงตันเหลือเงินใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนเคียฟอีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (22 ก.ย.) คริส เชอร์วูด ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กลับแถลงว่า ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับยูเครนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิบัติการดังกล่าวครอบคลุมถึงการฝึกทหารและการจัดหาอาวุธ และเสริมว่า ความช่วยเหลือนี้ถือว่า “สำคัญ” และเป็น “กิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น”
ทางด้านมอสโกนั้นประณามการที่ต่างชาติจัดส่งอาวุธให้เคียฟมาตลอด โดยยืนกรานว่า จะไม่ทำให้เป้าหมายทางทหารของตนเปลี่ยนไปหรือแม้จะเปลี่ยนไปก็น้อยมาก แต่กลับจะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป
ตอนที่อเมริกาอนุมัติการจัดส่งรถถังอะบรามส์ให้เคียฟเมื่อเดือนมกราคมนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวเยาะเย้ยว่า อาวุธของอเมริกาจะถูกเผาแบบเดียวกับอาวุธอื่นๆ ที่ตะวันตกส่งให้ยูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, อาร์ที)
