ตำรวจนิวยอร์กเร่งล่าตัวคนร้ายก่อเหตุกราดยิงภายในขบวนรถไฟและสถานีรถไฟใต้ดินที่เขตบรองซ์ (Bronx) เมื่อวันจันทร์ (12 ก.พ.) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 5 คน
เจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ซึ่งเปิดแถลงข่าวที่ด้านนอกสถานีรถไฟจุดเกิดเหตุระบุว่า วัยรุ่น 2 กลุ่มได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนขบวนรถไฟที่มุ่งสู่ทิศเหนือ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น
ตำรวจเผยว่า กระสุนนัดแรกถูกยิงภายในขบวนรถไฟ ทว่าผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้ง 6 รายถูกกระสุนลูกหลงที่ชานชาลา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นชายอายุ 34 ปี ส่วนอีก 5 คนที่เหลือถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บที่ไม่อันตรายถึงชีวิต
เหยื่อในเหตุกราดยิงครั้งนี้มีอายุระหว่าง 14-71 ปี เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน
“ขอฝากไปถึงมือยิงว่าตอนนี้คุณเป็นบุคคลที่ตำรวจนิวยอร์กต้องการตัวมากที่สุด และนักสืบฝีมือดีที่สุดกำลังไล่ล่าตัวคุณ” ทาริก เชปพาร์ด รองผู้บัญชาการตำรวจนิวยอร์กฝ่ายประชาสัมพันธ์ ระบุ
“ดังนั้นจึงขอให้เข้ามอบตัวเสียดีกว่า” เขากล่าว
ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ขนส่งย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุกราดยิงบนขบวนรถไฟใต้ดินนิวยอร์กเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และขอให้ผู้โดยสารอย่าได้วิตกกังวล
รถไฟใต้ดินนิวยอร์กมีผู้ใช้งานเฉลี่ย 3.8 ล้านเที่ยวต่อวันในวันธรรมดา และตามข้อมูลจากกรมขนส่งนิวยอร์ก (Metropolitan Transportation Authority) ระบุว่ามีเหตุโจมตีเกิดขึ้นในระบบรถไฟใต้ดิน 570 กรณีในปี 2023
สำหรับเหตุยิงกันในขบวนรถไฟยิ่งเกิดขึ้นน้อยมาก โดยเมื่อปี 2022 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นยิงใส่ผู้โดยสารบนรถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังแล่นผ่านเขตบรุกลิน (Brooklyn) จนมีผู้บาดเจ็บไป 10 คน ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงบนรถไฟนิวยอร์กครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1984
ที่มา : รอยเตอร์