ฝนที่ตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ส่งผลให้นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เกิดน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) โดยระบบรถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ ขณะที่ถนนหลายสายก็มีน้ำเจิ่งนองจนมีสภาพไม่ต่างจากทะเลสาบ
บางพื้นที่ของนิวยอร์กซึ่งเป็นมหานครที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐฯ มีปริมาณฝนตกถึง 20 เซนติเมตร ซึ่งมากพอที่จะทำให้ “สิงโตทะเล” ตัวหนึ่งในสวนสัตว์เซ็นทรัลพาร์คหลุดออกมาจากบ่อชั่วคราว
เคที โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังน้ำท่วมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่นครนิวยอร์ก ลองไอแลนด์ และฮัดสันแวลลีย์ รวมถึงระดมเจ้าหน้าที่จากกองกำลังเนชันแนลการ์ดบางส่วนเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัย
สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ระบบรถไฟใต้ดินนิวยอร์กต้องหยุดให้บริการชั่วคราว และมีการสั่งปิดสถานีหลายแห่ง ขณะที่รถประจำทางบางสายก็เคลื่อนที่ได้ช้าจนผู้โดยสารติดอยู่บนถนนหลายชั่วโมง
ทางการยังแจ้งเตือนชาวนิวยอร์กให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้เว้นเสียแต่เป็นการอพยพออกจากพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมสูง
นครนิวยอร์กมีปริมาณฝนตกมากถึง 34.9 เซนติเมตรในเดือนนี้ ตามข้อมูลเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันศุกร์ (29) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเดือน ก.ย. ที่มีฝนมากเป็นประวัติการณ์
สนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคนเนดี มีฝนตกในวันเดียวเกือบ 8 นิ้ว ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1948 ส่วนที่เขตบรุกลิน (Brooklyn) ก็มีปริมาณฝนตกเทียบเท่าค่าเฉลี่ย 1 เดือนภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง
ที่มา : รอยเตอร์