At a Columbia event today, @HillaryClinton and @USAmbUN are facing protests over their support for the Israeli genocide in Gaza: pic.twitter.com/uOMCdI6fiw— Aaron Maté (@aaronjmate) February 9, 2024
พวกผู้ประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ บุกแทรกการกล่าวบรรยายของนางฮิลลารี คลินตัน เมื่อวันศุกร์ (9 ก.พ.) ตะโกนเรียกอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้ว่าเป็น "อาชญากรสงคราม" และสาปแช่งว่าเธอ "จะถูกไฟแผดเผา" จากกระทำต่างๆ ของเธอในตะวันออกกลาง
คลินตัน ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่เธอขึ้นกล่าวบนเวทีบรรยายในเรื่องเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ณ มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ในนิวยอร์ก สถานศึกษาที่เธอทำหน้าที่เป็นศาสตราจารย์ด้านกิจการระหว่างประเทศและสาธารณะ
"ฮิลลารี ไดแอน รอดแฮม คลินตัน คุณคืออาชญากรสงคราม" ชายคนหนึ่งตะโกน "ประชาชนชาวลิเบีย ประชาชนชาวอิรัก ประชาชนชาวซีเรีย ประชาชนชาวเยเมน ประชาชนชาวปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับประชาชนอเมริกา จะไม่มีวันให้อภัยคุณ" พร้อมกับกล่าวต่อว่า "แกจะถูกแผดเผา" ก่อนสุดท้ายเขาจะโดนเข้าประกบพาตัวออกไปจากห้องบรรยาย
อดีตผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มกล่าวบรรยายอีกรอบ แต่ถูกขัดจังหวะและตะโกนแทรกโดยผู้ประท้วงรายที่ 2 "แกเคยทำสิ่งนี้มาก่อน แกฉวยประโยชน์จากความรุนแรงทางเพศในลิเบีย เพื่อที่คุณจะอ้างความชอบธรรมแก่ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ถ้าคุณโกรธจัดต่อความรุนแรงทางเพศ คุณก็ควรพูดถึงควมรุนแรงทางเพศในปาเลสไตน์ ความรุนแรงทางเพศที่พวกเขาต้องเผชิญในทุกๆ วัน"
"ประชาชนมีสิทธิประท้วง" คลินตันตอบกลับ "แต่พวกเขาไม่มีอิสระเสรีที่จะก่อความวุ่นวายแก่กิจกรรมใดๆ หรือชั้นเรียนไหนๆ และมันคือมาตรฐานที่เราปฏิบัติตามที่นี่ และจะเดินหน้าปฏิบัติเช่นนี้"
คลินตัน เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างปี 2009 ถึง 2013 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ณ ขณะนั้น โดยในฐานะทูตสูงสุดของอเมริกา เธอล็อบบี้ให้ โอบามา ส่งทหารเพิ่มเติมเข้าไปยังอัฟกานิสถาน ติดอาวุธแก่พวกนักรบญิฮาดต่อต้านรัฐบาลในซีเรีย และสนับสนุนนาโตเข้าแทรกแซงในลิเบีย
ทั้งนี้ หลังจาก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียถูกโค่นอำนาจและประหารโดยพวกกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ คลินตันโอ้อวดผ่านสำนักข่าวซีบีเอสนิวส์ว่า "เรามา เราเห็น แล้วเขาก็ตาย"
คลินตัน แสดงท่าทีฝักใฝ่อิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงหนุนหลังอิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่เลบานอนในปี 2006 เธอวิพากษ์วิจารณ์เสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงในสงครามปัจจุบันระหว่างอิสราเอลกับฮามาส โดยอ้างว่าการหยุดยิงจะเป็นการเปิดโอกาสให้พวกนักรบปาเลสไตน์ติดอาวุธใหม่และจะทำให้วัฏจักรแห่งความรุนแรงยืดเยื้อถาวร
ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เปิดเผยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ คลินตัน ในวันศุกร์ (9 ก.พ.) ว่าเธอถูกขัดจังหวะโดยพวกผู้ประท้วงเช่นกัน ซึ่งตะโกน "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" ก่อนถูกพาตัวออกนอกห้องประชุม
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)