ผู้โดยสารของสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบินกรุงเทพฯ-มิวนิก ต่างตกอยู่ในอาการช็อกและเศร้าสลดกันทั้งลำ หลังเกิดเหตุชายรายหนึ่ง จู่ๆ ไอออกมาเป็นเลือด ก่อนเสียชีวิตบนเครื่อง เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ที่ผ่านมา
ชายชาวเยอรมนีวัย 63 ปี ขึ้นเที่ยวบินของสายการบินลุฟต์ฮันซา จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่มิวนิก เยอรมนี ด้วยอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด ก่อนอาการจะทรุดลงอย่างรวดเร็วหลังจากขึ้นไปบนเครื่อง
มาร์ติน มิสเฟลเดอร์ วัย 53 จากซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินลำดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสวิตเซอร์แลนด์ว่า "มันน่าสยองอย่างยิ่ง ทุกคนพากันกรีดร้องออกมา"
รายงานข่าวระบุว่า ภรรยาของชายคนนี้แจ้งกับลูกเรือว่าสามีของเธอรู้สึกไม่ค่อยดี สืบเนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องเร่งรีบวิ่งมาให้ขึ้นเครื่องบินทันเวลา ณ ท่าอากาศยานในกรุงเทพฯ "พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งเดินมาหาและสอบถามเขาว่า เขาโอเคไหม เธอรู้สึกกังวลมาก" คาริน ภรรยาของมิสเฟลเดอร์ เล่าเสริม ทั้งนี้เธอและสามีเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เนื่องจากนั่งอยู่ข้างหลังผู้เสียชีวิต
คาริน เล่าต่อว่า ชายคนนี้บอกว่าเขาไม่เป็นไร และสบายดีพอที่จะบินได้ แต่เธอตัดสินใจบอกกับพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินว่า ชายรายนี้ต้องการพบแพทย์เป็นการด่วน
ไม่นานหลังจากนั้น นักบินมาถึงและได้ประกาศผ่านลำโพงสอบถามหาแพทย์ ซึ่งมีแพทย์ชาวโปแลนด์วัย 30 ปีรายหนึ่งแสดงตน และสอบถามอาการของชายรายนี้และตรวจจับชีพจรของเขา ก่อนบ่งชี้ว่าเขาไม่น่าจะเป็นอะไรมาก
คาริน เล่าต่อว่า "จากนั้นพวกเขาก็จัดหาชาคาโมมายล์แก้วเล็กๆ ให้ชายรายนี้ แต่เขาเริ่มไอออกมาเป็นเลือดแล้ว และพ่นมันใส่ถุงที่ภรรยาหยิบออกมาให้"
เครื่องบินเทกออฟไปแล้ว และอาการของชายคนนี้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เลือดที่เขาไอใส่ถุงนั้นเริ่มมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพรั่งพรูออกจากปากและจมูกของเขา
"มันน่าสยดสยองมาก ทุกคนส่งเสียงกรีดร้อง" พร้อมระบุว่า ชายคนนี้น่าจะสูญเสียเลือดในปริมาณหลายลิตร ซึ่งบางส่วนยังกระเด็นกระจายเปื้อนผนังห้องโดยสารอีกด้วย
(ที่มา : สแตนดาร์ด)