เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ เชื่อจะช่วยให้กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางเดินหน้าไปได้
ระหวางกล่าวต้อนรับบรรดาผู้แทนทูตอาหรับในกรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ (29 ม.ค.) คาเมรอน เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของฮามาส และมอบขอบเขตทางการเมืองหนึ่งแก่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ในการมุ่งสู่แนวทาง 2 รัฐคู่ขนาน (two-state solution)
"เรามีภาระหน้าที่ เพราะเราควรเริ่มวางกรอบว่ารัฐปาเลสไตน์ควรมีหน้าตาแบบไหน มันควรมีองค์ประกอบใดบ้าง รวมถึงแนวทางที่จะทำให้มันบรรลุผล" สื่อมวลชนสหราชอาณาจักรหลายแห่งอ้างคำกล่าวของคาเมรอน "เมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น เรากับพันธมิตร จะมองไปที่ประเด็นการรับรองรัฐปาเลสไตน์ ในนั้นรวมถึงที่สหประชาชาติ นี่อาจเป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่จะช่วยให้กระบวนการนี้ไม่อาจย้อนกลับได้"
การให้การรับรองความเป็นรัฐแก่ปาเลสไตน์ จะกลายเป็นความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งสำคัญของสหราชอาณาจักร หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรเคยบอกในปี 2011 ว่าจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ แต่ไม่ใช่ในฐานะสมาชิกเต็มขั้นของสหประชาชาติ จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา สภาผู้แทนราษฎรลงมติผ่านญัตติหนึ่ง เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศการรับรอง แต่ คาเมรอน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้นไม่ได้ทำเช่นนั้น
จุดยืนอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร ซึ่งวางกรอบโดยเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อเดือนพฤศจิกายน คือ สหราชอาณาจักร "จะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราในการมุ่งสู่ทางออกแบบ 2 รัฐคู่ขนาน บนพื้นฐานของ1967 lines ที่มีเยรูซาเลม อยู่ในฐานะเมืองหลวงร่วมระหว่าง 2 ฝ่าย"
คำจำกัดความ "1967 lines" เป็นการอ้างถึงเขตแดนต่างๆ ของอิสราเอลก่อนสงคราม 6 วัน ซึ่งการหวนคืนสู่สถานะนี้จะพบเห็นอาณาเขตกาซาขยายขึ้น ในขณะที่กองกำลังด้านความมั่นคงของอิสราเอลและพวกตั้งถิ่นฐานจะต้องถอนตัวออกจากเวสต์แบงก์ ที่ราบสูงโกลัน และเยรูซาเลมตะวันตก
สำหรับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลแล้ว แนวคิดดังกล่าวคงเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากเขาคัดค้านการตัดตั้งรัฐเอกราชปาเลสไตน์มาช้านาน "ผมจะไม่ประนีประนอมใดๆ กับการเข้าควบคุมด้านความมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของอิสราเอลเหนือทุกพื้นที่ทางตะวันตกของจอร์แดน และมันสวนทางกับรัฐปาเลสไตน์" เขากล่าวเมื่อช่วงกลางเดือน ทั้งนี้ พื้นที่ "ตะวันตกของจอร์แดน" ในนั้นรวมถึงทั้งเวสต์แบงก์และกาซา
เนทันยาฮู ออกถ้อยแถลงนี้เพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขาได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยผู้นำสหรัฐฯ ใช้โอกาสนี้พูดคุยกับผู้นำอิสราเอล เกี่ยวกับเส้นทางความเป็นไปได้ในหลายหนทาง ในการมุ่งสู่ทางออกแบบ 2 รัฐคู่ขนาน
สหราชอาณาจักรและสหประชาชาติ ประณาม เนทันยาฮู ต่อท่าทีไม่ยอมประนีประนอมของเขา โดยที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ถึงขั้นบอกว่า "การปฏิเสธสิทธิความเป็นรัฐของประชาชนชาวปาเลสไตน์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้"
ปัจจุบันมีประเทศที่รับรองรัฐปาเลสไตน์แล้ว 139 ชาติ จากประเทศสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมด 193 ชาติ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)
