ทัพยิวเจอศึกยืดเยื้อ

น่าจะเป็นอย่างที่นักวิเคราะห์ด้านการทหารว่าไว้

กองทัพอิสราเอลซึ่งปฏิบัติการในฉนวนกาซาขณะนี้อาจได้ชัยชนะด้านยุทธการ แต่พ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์จากการสู้รบนานกว่าสองเดือน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเอาชนะกองกำลังฮามาสได้

นั่นเป็นเพราะความแตกต่างของสมรภูมิและพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งลดทอนขีดความสามารถของกองทัพอิสราเอลได้มาก ฮามาสมีจำนวนไม่เกิน 40,000 คนแต่สามารถใช้ยุทธวิธีสงครามกองโจรสู้กองทัพอิสราเอล สูญเสียกำลังพลน้อยด้วย

การที่อิสราเอลไม่สามารถเอาชนะกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ในเวลารวดเร็วแม้จะทำลายพื้นที่ฉนวนกาซาเกือบหมด แต่เป็นสงครามจรยุทธ์ที่ทำให้อิสราเอลจะต้องใช้กำลังและงบประมาณมาก รวมทั้งเวลาสู้รบยืดเยื้อด้วย

ในสงคราม 6 วันปี 1967 กองทัพอิสราเอลสามารถเอาชนะกองทัพอียิปต์ ซีเรีย และจอร์แดนด้วยการลงมือก่อน ทำลายกองทัพอากาศอียิปต์ ยึดพื้นที่ทั้งแหลมไซนาย ที่ราบสูงโกลัน และฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนรวมทั้งฉนวนกาซาด้วย

เป็นการปฏิบัติการที่สูญเสียน้อย ใช้เวลาเพียง 6 วันก็ชนะ 3 ประเทศซึ่งได้สร้างตำนานอันลือลั่นให้กองทัพอิสราเอล

ต่อมาในเดือนตุลาคมปี 1973 อียิปต์และซีเรียโจมตีอิสราเอลเพื่อชิงพื้นที่คืนในสงครามยมคิปปูร์ ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมถึง 28 เดือนเดียวกัน

ช่วงแรกกองทัพอิสราเอลอยู่ในสภาวะเพลี่ยงพล้ำ เกือบจะไม่รอดทำให้สหรัฐฯ ต้องเข้ามาแทรกแซง ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้กองทัพอิสราเอลจนสามารถตีตื้นได้และเอาชนะในที่สุด

ทำให้กองทัพอิสราเอลมีแสนยานุภาพเหนือประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางด้านอาวุธและความเชี่ยวชาญในการรบเพราะมีแรงสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา

แต่การสู้รบครั้งนี้ต่างไป เพราะไม่ได้ต่อสู้กันซึ่งหน้า ไม่ใช่สงครามแบบที่ควรจะเป็น กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดอาคารบ้านเรือนในฉนวนกาซาเสียหายมากกว่า 100,000 หลังซึ่งมีทั้งโบสถ์ สุเหร่า โรงพยาบาล โรงเรียน และอาคารสำหรับค่ายผู้ลี้ภัย

จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม กองทัพอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ 19,000 กว่ารายซึ่ง 40% เป็นเด็กและสตรีรวมถึงพลเรือน เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่เกี่ยวกับการสู้รบ

จำนวนผู้บาดเจ็บชาวปาเลสไตน์มีมากกว่า 50,000 รายซึ่งเป็นผลของการกระทำที่เรียกว่าฆ่าแบบยกเล้าเหมาเข่ง ไม่เลือกเป้าหมาย อิสราเอลได้ใช้ระเบิดความแม่นยำต่ำทิ้งจากเครื่องบินเพื่อสร้างความเสียหายให้มากที่สุด

เมื่อกองกำลังฮามาสอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินใต้ฉนวนกาซามีความยาวกว่าหลายร้อยกิโล ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจึงเป็นพลเรือนซึ่งอยู่บนพื้นดินและในอาคารต่างๆ

การโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายเท่ากับว่าอิสราเอลได้ทำอาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สังหารหมู่ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรเจนีวา เป็น
อาชญากรสงคราม ซึ่งสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุน

ทั้งสองประเทศจึงถูกกล่าวหาว่ากระทำอาชญากรรมสงคราม แต่ความเป็นชาติมหาอำนาจของสหรัฐฯ ยังปกป้องอิสราเอลได้

กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดใส่ฉนวนกาซามากกว่า 29,000 ลูกและ 40% เป็นจรวดที่ไร้ความแม่นยำเพื่อสร้างความเสียหายและให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย

เจตนาของอิสราเอลจึงไม่ใช่เพียงแค่กวาดล้างกองกำลังติดอาวุธเท่านั้น แต่ต้องการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ให้ออกจากพื้นที่ฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน

ดังนั้น อาวุธต่างๆ ที่ถล่มใส่ฉนวนกาซา จะมาจากเครื่องบินทิ้งระเบิด รถถัง ปืนใหญ่และอาวุธประเภทอื่นๆ จึงหวังผลการทำลายสูงด้านความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนและชีวิตชาวปาเลสไตน์

ความพยายามของสหประชาชาติที่ต้องการให้มีการหยุดยิงถูกขัดขวางโดยสหรัฐอเมริกาและกลุ่มชาติตะวันตกในยุโรปและออสเตรเลีย จึงทำให้เห็นความเป็นหน้าเนื้อใจเสือของสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการสันติภาพให้เกิดขึ้น

พฤติกรรมของสหรัฐฯ เยี่ยงนี้เหมือนกับกรณีที่ไม่ยอมให้ยูเครนเจรจาสงบศึกกับรัสเซียโดยอ้างว่าสหรัฐฯ จะช่วยเหลือยูเครนให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผลที่ตามมาก็คือยูเครนที่สูญเสียคนหนุ่มสาวเป็นทหารระหว่าง 300,000-500,000 นาย บ้านเมืองพินาศย่อยยับและยังถูกยึดพื้นที่ไปถึง 25% โดยรัสเซียซึ่งล้วนเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและมีแร่ธาตุหายากเป็นทรัพยากรมีค่า

จะเห็นได้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้ค้าสงคราม ส่งเสริมให้มีการฆ่าฟันกันเพื่อต้องการขายอาวุธ ส่งเสริมอุตสาหกรรมทหารซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

โดยสภาพที่เป็นอยู่ ยูเครนไม่มีโอกาสชนะสงครามรัสเซียได้เพราะขาดกำลังทหารและทรัพยากร ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และยุโรปก็ลดลง ทำให้ยูเครนใกล้จะสิ้นสภาพความเป็นชาติ

สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในดินแดนกาซากำลังทำให้สหรัฐฯ อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลก และได้เห็นธาตุแท้ของกลุ่มกุมอำนาจในสหรัฐฯ และอิสราเอลว่าเป็นผู้กระหายเลือด ไร้ศีลธรรม

นักวิเคราะห์ต่างมองว่าสิ่งที่อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ ขณะนี้ไม่ต่างจากที่กองทัพนาซีภายใต้ฮิตเลอร์กระทำกับชาวยิวช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีชาวยิวถูกสังหารมากกว่า 6 ล้านคน

อิสราเอลกำลังพ่ายแพ้ด้านยุทธศาสตร์และถูกเกลียดชังโดยประชาคมโลกพร้อมกับสหรัฐฯ ที่เป็นตัวการและสนับสนุนด้วยการส่งอาวุธให้กองทัพอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์