ไม่ไว้ใจพันธมิตร! ทรัมป์ไม่เชื่อนาโตจะปกป้องสหรัฐฯ หากอเมริกาถูกโจมตี

องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่เข้าช่วยเหลือหากว่าสหรัฐฯ ถูกโจมตี จากคำเตือนของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันเสาร์ (28 ม.ค.) ในความเคลื่อนไหวออกมาวิพากษ์วิจารณ์นาโตรอบล่าสุดของผู้สมัครชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

ระหว่างกล่าวปราศรัยกับพวกผู้สนับสนุน ณ กิจกรรมหาเสียงหนึ่งในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ทรัมป์ยังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรทหารตะวันตกกลุ่มนี้ "เรากำลังจ่ายเงินให้นาโต แต่เราไม่ได้อะไรตอบแทนมาเท่าไหร่" เขากล่าวอ้าง

"และคุณก็รู้ ผมไม่อยากบอกกับคุณเลยในเรื่องนี้เกี่ยวกับนาโต ถ้าเราต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ถ้าเราถูกโจมตี ผมไม่เชื่อว่าพวกเขาจะยืนหยัดอยู่ตรงนั้น" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว "ผมรู้จักคนพวกนี้ดี"

ตามมาตรา 5 ของบทบัญญัตินาโต การโจมตีติดอาวุธใดๆ ใส่รัฐสมาชิกหนึ่งต้องถูกพิจารณาว่าเท่ากับเป็นการโจมตีนาโตทั้งมวล

คำปราศรัยล่าสุดของทรัมป์ มีขึ้นตามหลังประวัติอันยาวเหยียด ที่ทรัมป์ส่งเสียงโวยวายใส่พันธมิตรทหารแห่งนี้ ทั้งระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และหลังพ้นจากตำแหน่งแล้ว เขาเคยสร้างแรงกระเพื่อมแก่นาโตหลายต่อหลายครั้ง ในนั้นรวมถึงคำกล่าวหาในปี 2017 ที่ว่าพันธมิตรทหารแห่งนี้ "ล้าสมัย" และต่อมาเขาเหน็บแนมเยอรมนีและพันธมิตรอื่นๆ ของอเมริกาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อกรณีไม่ใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองอย่างเพียงพอ

ทรัมป์ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ในประเด็นที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครน ระหว่างเปิดศึกความขัดแย้งกับรัสเซีย "เราไม่เหลือกระสุนสำหรับตัวเราเอง เราให้พวกเขามากเกินไป" ทรัมป์กล่าวเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสัญญาจะยุติการสู้รบระหว่างมอสโกกับเคียฟ ภายใน 24 ชั่วโมงและฟื้นฟูสันติภาพในภูมิภาค ถ้าได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกว่าคำกล่าวอ้างของทรัมป์นั้นไม่มีความเป็นจริง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามโดยสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ว่าเขาเชื่อว่าทรัมป์จะเดินหน้ามอบแรงสนับสนุนแก่ยูเครนหรือไม่ เซเลนสกีตอบว่า "จริงๆ แล้วผมไม่ทราบ"

ทรัมป์ ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะก้าวมาเป็นตัวแทนจากรีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แข่งกับ ไบเดน ตัวแทนจากเดโมแครต หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เขาคว้าชัยในการหยั่งเสียงแบบคอคัสในรัฐไอโอวา และแบบไพรมารีในนิวแฮม์เชียร์ กระตุ้นให้ รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ประกาศถอนตัว ทำให้เหลือ นิกกิ ฮาลีย์ อดีตผู้แทนสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เป็นคู่แข่งเพียงรายเดียวของทรัมป์

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)