รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนีเห็นพ้องในหลักการที่จะมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว รวมเป็น 8,000 ล้านยูโร หรือราว 307,000 ล้านบาท ในปี 2024
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวในกรุงเบอร์ลินซึ่งระบุว่า หากข้อเสนอนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลของ ชอลซ์ กุมเสียงข้างมาก จะช่วยให้เยอรมนีบรรลุเป้าหมายในการใช้จ่ายงบกลาโหมถึง 2.1% ของจีดีพี หรือสูงกว่าเกณฑ์ 2% ที่บรรดารัฐสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ให้คำมั่นกันไว้
บรรดา ส.ส. จากพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD) ของ ชอลซ์ รวมถึงพรรคฟรีเดโมแครต และพรรคกรีน ลงมติเห็นพ้องในเรื่องดังกล่าว ก่อนที่คณะกรรมการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี (Bundestag) จะมีการประชุมอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.นี้
โฆษกกระทรวงกลาโหมเยอรมนียังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ โดยให้เหตุผลว่าคณะกรรมการสภาฯ ยังเจรจากันไม่แล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกลาโหมเมืองเบียร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ARD โดยมีการอ้างถึงแผนมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
“นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังยูเครนว่าเราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาพลาดท่าเสียที” พิสโตริอุส กล่าว พร้อมระบุว่าหากรัฐสภาให้ความเห็นชอบก็จะเป็นงบช่วยเหลือที่เพียงพอสำหรับระยะเวลา 1 ปี
ด้านหนังสือพิมพ์ บิลด์ อัม ซอนน์ทาก ของเยอรมนีก็รายงานเช่นกันว่า คณะกรรมการงบประมาณเตรียมที่จะอนุมัติงบช่วยเหลือยูเครนเพิ่มอีก 4,000 ล้านยูโร พร้อมอ้างความเห็นจาก อันเดรียส ชวาร์ซ ส.ส.พรรค SPD ซึ่งระบุว่า “ความเคลื่อนไหวนี้จะเป็นการยืนยันคำมั่นสัญญาที่เรามีต่อยูเครนว่าจะให้ทุนสนับสนุนที่จำเป็นแก่พวกเขา และข้อเท็จจริงที่ว่ามันจะช่วยให้เราเติมเต็มพันธกรณีต่อนาโตด้วย ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของกลุ่มพันธมิตร”
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวนักการทูตหลายคนระบุในสัปดาห์นี้ว่า แผนของสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนสูงสุดถึง 20,000 ล้านยูโร ยังคงเผชิญกระแสต่อต้านจากรัฐอียูบางประเทศ
ที่มา : รอยเตอร์