รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาในวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) ระงับการรณรงค์หาเสียง สำหรับลุ้นเป็นต้วแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ระบุจะหันไปสนับสนับตัวเต็งอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แทน
ในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เดอซานติส ระบุว่าหลังจากจบอันดับ 2 ในการหยั่งเสียงแบบคอคัส ของพรรครีพับลิกัน ที่รัฐไอโอวา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาจะไม่ขอให้ "บรรดาผู้สนับสนุนเสียสละเวลาและบริจาคทรัพยากร หากว่าเราไม่มีเส้นทางสู่ชัยชนะอย่างชัดแจ้ง ดังนั้น วันนี้ผมจึงกำลังระงับการหาเสียงของผม"
การถอนตัวจากการแข่งขันของเขามีขึ้นไม่ถึง 2 วันก่อนถึงศึกหยั่งเสียงแบบไพรมารี ของพรรครีพับลิกัน ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็น พบว่า เดอซานติส มีคะแนนตามหลังแบบอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และนิกกิ ฮาลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติค่อนข้างห่าง
"มันชัดเจนกับผมมากกว่าเสียงส่วนใหญ่ของผู้มีสิทธิออกเสียงไพรมารีของรีพับลิกัน ต้องการให้โอกาส โดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้ง" เดอซานติสกล่าวในวิดีโอ พร้อมเน้นย้ำว่าเขามีความเห็นแตกต่างกับอดีตประธานาธิบดีรายนี้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
"เขาได้รับเสียงสนับสนุนจากผม เพราะว่าเราไม่อาจย้อนกลับไปเป็นรีพับลิกันแบบปีเก่าๆ หรือเป็นเพียงการนำบรรษัทนิยมเดิมๆ ที่ นิกกิ ฮาลีย์ เป็นตัวแทน มาเปลี่ยนแพกเกจใหม่" เดอซานติสกล่าว
ทรัมป์ วัย 77 ปี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกหยั่งเสียงที่รัฐไอโอวาเมื่อวันอังคารที่แล้ว (23 ม.ค.) ด้วย 51% ของผู้มีสิทธิออกเสียงรีพับลิกัน เลือกอดีตประธานาธิบดีที่ถูกยื่นถอดถอน 2 ครั้งรายนี้ เหนือ เดอซานติส ซึ่งได้รับคะแนนเสียงเพียง 21% ส่วน ฮาลีย์ ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 19%
ไม่เคยมีผู้สมัครรายใดตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หลังคว้าชัยชนะในศึกหยั่งเสียง 2 รัฐแรก และเกือบจะแน่นอนว่า ทรัมป์ จะประกาศตัวในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน ด้วยชัยชนะในศึกหยั่งเสียงรัฐนิวแฮมเชียร์เป็นลำดับต่อไป
ฮาลีย์ ที่ผ่านมาละเว้นไว้ซึ่งการโจมตี ทรัมป์ ในประเด็นถกเถียงต่างๆ มากมายที่ล้อมรอบการเสนอตัวของเขา แต่ในสัปดาห์แล้ว เธอเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถทางด้านจิตใจ ทำการเปรียบเทียบอดีตประธานาธิบดีรายนี้กับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันวัย 81 ปีจากพรรคเดโมแครต
(ที่มา : เอเอฟพี)