xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์คว้าชัยไพรมารีนิวแฮมป์เชียร์ เฮลีย์ยังไม่ถอยบอกการต่อสู้ยังไม่จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี – ทรัมป์คว้าชัยการหยั่งเสียงรอบไพรมารีที่นิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอังคาร (23 ม.ค.) และเข้าใกล้การได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันในศึกชิงทำเนียบขาวนัดล้างตากับไบเดนปลายปีนี้ ขณะที่เฮลีย์ที่แม้แพ้ยับเยิน แต่ก็ยังประกาศจะสู้ต่อ

โดนัลด์ ทรัมป์ นำห่างถึง 11% ขณะที่นับคะแนนไปได้ราว 60% กระนั้น นิกกี้ เฮลีย์ คู่แข่งเพียงคนเดียว ยืนยันว่า การต่อสู้ยังไม่จบ โดยในการปราศรัยประกาศชัยชนะ ทรัมป์ วัย 77 ปี คุยโอ่ว่า ตนเองจะชนะอย่างง่ายดายเมื่อการหยั่งเสียงรอบไพรมารีไปจัดที่รัฐเซาธ์แคโรไลนา บ้านเกิดของเฮลีย์

ประเด็นหาเสียงหลักของทรัมป์คือการเตือนเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย ขณะที่เจ้าตัวยังคงโกหกเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองพ่ายแพ้ให้แก่โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต

ทางด้านเฮลีย์ วัย 52 ปี ปราศรัยกับผู้สนับสนุนว่า เดโมแครตต้องการแข่งกับทรัมป์ อดีตเจ้านายของเธอ เนื่องจากมีประวัติจุดชนวนเหตุการณ์วุ่นวาย และรู้ว่า ทรัมป์เป็นสมาชิกรีพับลิกันคนเดียวในอเมริกาที่ไบเดนสามารถเอาชนะได้

แม้ได้นิวแฮมป์เชียร์หลังคว้าชัยชนะอย่างง่ายดายในไอโอวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดูเหมือนเกือบจะไม่มีอะไรหยุดยั้งทรัมป์ได้ในการได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน แต่อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ยังคงตอกย้ำแนวทางขวาสุดโต่ง และไม่มีวี่แววว่า ต้องการเข้าถึงผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่นิยมแนวทางสายกลางและสนับสนุนเฮลีย์

ครั้งหนึ่งระหว่างปราศรัยทางทีวีในช่วงไพรม์ไทม์ ทรัมป์บอกว่า อเมริกาเป็นประเทศที่อ่อนแอ และอ้างว่า พวกลักลอบเข้าเมืองเป็นพวกที่มาจากโรงพยาบาลจิตเวชและคุก และต้องการเข่นฆ่าอเมริกา

ทางด้านไบเดนตอบโต้ว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า ทรัมป์จะได้รับการเสนอชื่อจากรีพับลิกัน และสิ่งที่เขาต้องการสื่อกับคนอเมริกันคือ เดิมพันไม่เคยสูงเท่านี้มาก่อน เพราะหมายถึงประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลที่ครอบคลุมตั้งแต่สิทธิ์ในการเลือกไปจนถึงสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้ง

การที่มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์อย่างคับคั่งในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทำให้เฮลีย์หวังว่า อาจพลิกล็อกมีคะแนนนำ แต่บรรดาสถานีทีวีต่างๆ กลับออกมาคาดหมายอย่างรวดเร็วทันทีที่มีการหย่อนบัตรลงคะแนนช่วงแรกๆ ว่า เธอแพ้แน่

ในทางกลับกัน แม้ถูกตรวจสอบเพื่อถอดถอน 2 ครั้งระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แถมมีคดีอาชญากรรมอยู่ในศาลอีก 4 คดีนับจากพ้นทำเนียบขาว แต่ทรัมป์กลับเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้เป็นตัวแทนรีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้

แม้เฮลีย์ตอกย้ำคำถามเกี่ยวกับสมรรถภาพทางจิตของทรัมป์ แต่ดูเหมือนความพยายามนั้นจะไม่เพียงพอขัดขวางอดีตประธานาธิบดีผู้นี้

คีธ นาฮิเจียน ผู้คร่ำหวอดในแคมเปญหาเสียงประธานาธิบดีมา 6 ครั้ง และอดีตสมาชิกทีมผ่องถ่ายอำนาจของทรัมป์ชี้ว่า ดูเหมือนตอนนี้เป็นการแข่งขันระหว่างทรัมป์กับไบเดนเท่านั้น

ทั้งนี้ ทรัมป์ชนะลอยลำในการหยั่งเสียงของพรรครีพับลิกันนัดแรกที่ไอโอวาสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฮลีย์ตามมาห่างๆ ในอันดับ 3 และการแข่งขันที่เคยมีแคนดิเดตห้ำหั่นกัน 14 คน กลับเหลือผู้แข่งขันแค่ 2 คน หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ประกาศถอนตัว หลังได้คะแนนอันดับ 2 ในไอโอวา

ทั้งนี้ ไม่มีผู้สมัครรีพับลิกันคนไหนที่ชนะการหยั่งเสียงทั้งสองนัดแรกแล้วไม่ได้เป็นตัวแทนพรรคลงศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาก่อน

ขณะเดียวกัน ไบเดนชนะการหยั่งเสียงรอบไพรมารีอย่างไม่เป็นทางการของพรรคเดโมแครตที่นิวแฮมป์เชียร์เมื่อวันอังคาร ซึ่งเขาตระเวนหาเสียงกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสในเวอร์จิเนีย โดยชูประเด็นสิทธิ์ในการทำแท้ง

ขณะที่ทรัมป์อวดอ้างว่า ตนเองมีบทบาทในการยุติสิทธิ์ในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญ ไบเดนปราศรัยกับฝูงชนว่า รีพับลิกันจะดื้อดึงจำกัดสิทธิ์อเมริกันชนต่อ

หลังผลการหยั่งเสียงที่นิวแฮมป์เชียร์เผยแพร่ออกมา ทีมหาเสียงของไบเดนฟันธงว่า ขบวนการทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งที่ต่อต้านเสรีภาพของประชาชนของทรัมป์กลับเข้ายึดพรรครีพับลิกันเป็นที่เรียบร้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น