ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี วิพากษ์วิจารณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวันเสาร์ (9 ธ.ค.) ระบุองค์กรแหล่งนี้กลายสภาพเป็น "ผู้ปกป้องอิสราเอล" ไปเสียแล้ว สืบเนื่องจากวอชิงตัน ตามหลังสหรัฐฯ ขัดขวางมติหนึ่งที่เรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในกาซาในทันที
"สืบเนื่องจากการวีโต้ของสหรัฐฯ พวกเขาไม่สามารถบรรลุการตัดสินใจ มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ" แอร์โดอันเน้นย้ำระหว่างร่วมกิจกรรมวันสิทธิมนุษยชนโลกในอิสตันบูล
ผู้นำตุรกีโต้แย้งด้วยว่า โลกมีขอบเขตใหญ่โตมากกว่า 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อันประกอบด้วย จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ซึ่งมีสิทธิวีโต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ในการแสดงความผิดหวังต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แม้ ตุรกี เป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโตของสหรัฐฯ แอร์โดอัน บอกว่า "เราได้สูญเสียความหวังและความคาดหมายจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไปแล้ว"
แอร์โดอัน อ้างว่า นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ครั้งที่กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เริ่มโจมตีฉนวนกาซา แก้แค้นที่พวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" จู่โจมนองเลือดเล่นงานอิสราเอล สังหารผู้คนอย่างน้อย 1,200 ราย ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีภารกิจสถาปนาสันติภาพโลกได้กลายสภาพเป็นผู้ปกป้องของอิสราเอล
"รัฐบาลอิสราเอลซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมั่นคงจากบรรดาประเทศตะวันตกทั้งหลาย กำลังลงมือฆาตกรรมอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนและสังหารหมู่ในกาซา ที่จะสร้างความกระดากอายแก่มนุษย์ทุกคน โลกที่ยุติธรรมนั้นมีความเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่กับสหรัฐฯ เพราะว่าสหรัฐฯ ยืนหยัดอยู่ข้างอิสราเอล" ประธานาธิบดีตุรกีระบุ
อ้างอิงข้อมูลล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาจากปฏิบัติการต่างๆ ของอิสราเอลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แตะระดับเกือบ 18,000 คนแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 50,000 คน
หลังจากข้อตดลงหยุดยิง 1 สัปดาห์กับฮามาสพังครืนลง อิสราเอลกลับมาเปิดปฏิบัติการทางทหารในกาซาอีกรอบ ในวันที่ 1 ธันวาคม ในขณะที่เมื่อวันศุกร์ (8 ธ.ค.) สหรัฐฯ ใช้สิทธิวีโต้ ขัดขวางมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้หยุดยิงในทันที โดยคณะมนตรีออกเสียงที่ 13-1 และสหราชอาณาจักรงดออกเสียง
โรเบิร์ต วู้ด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ อ้างความชอบธรรมการใช้สิทธิวีโต้ดังกล่าว โดยบอกว่าการระงับการสู้รบใดๆ จะเป็นการเปิดทางให้ฮามาสคงการควบคุมฉนวนกาซา และเพาะเมล็ดพันธุ์สำหรับสงครามถัดไป
ทั้งนี้ วู้ด เน้นว่า วอชิงตันอยากเห็นสันติภาพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของทางออก 2 รัฐคู่ขนาน แต่เขาอ้างว่า ฮามาส ไม่ปรารถนาในหนทางดังกล่าว
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงความยินดีต่อการวีโต้ของสหรัฐฯ โดยชื่นชมว่ามันเป็นการ "แสดงจุดยืนที่ถูกต้องของสหรัฐฯ"
นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์บรรดาสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอื่นๆ ที่สนับสนุนข้อตกลงหยุดยิง โดยบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนกำจัดฮามาส และเรียกร้องให้ยุติสงครามกับนักรบกลุ่มนี้ไปพร้อมๆ กัน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)