xs
xsm
sm
md
lg

ไม่สนโลก!สหรัฐฯวีโต้คณะมนตรีฯUN ขวางหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในกาซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(8ธ.ค.) ใช้สิทธิ์วีโต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในทันที ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์"ฮามาส" ในฉนวนกาซา ความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ว่าวอชิงตันกำลังโดดเดี่ยวทางการทูต อันเนื่องจากพวกเขาปกป้องพันธมิตรสำคัญอย่างอิสราเอล

สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 13 ประเทศ ลงมติเห็นชอบร่างมติพอสังเขป ที่ผลักดันโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนอีกชาติ สหราชอาณาจักรงดออกเสียง โดยการลงมติครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เคลื่อนไหวอย่างที่ไม่พบเห็นบ่อยนักเมื่อวันพุธ(6ธ.ค.) เอ่ยปากเตือนสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีทั้งหมด 15 ประเทศ ว่าโลกกำลังเผชิญภัยคุกคามจากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 2 เดือน

"นี่ไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวกับการโดดเดี่ยว มันเป็นประเด็นเกี่ยวกับสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเรื่องดีที่สุดในความพยายามยุติความขัดแย้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และช่วยอำนวยความสะดวกแก่การป้อนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมเข้าสู่ฉนวนกาซา" โรเบิร์ต วู้ด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการโหวต "เราไม่อาจแค่ดีดนิ้ว แล้วความขัดแย้งหยุดลง มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ"

สหรัฐฯและอิสราเอล คัดค้านข้อตกลงหยุดยิง เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์เฉพาะกับพวกฮามาส โดยวอชิงตันสนับสนุนการพักสู้รบแทน เพื่อปกป้องพลเรือนและเปิดทางปล่อยตัวประกันที่ถูกฮามาสจับตัวไป ในปฏิบัติการจู่โจมนองเลือดเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

การหยุดยิงเป็นเวลาทั้งสิ้น 7 วัน พบเห็นพวกฮามาสปล่อยตัวประกันบางส่วนและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกส่งเข้าไปยังฉนวนกาซาเพิ่มเติม ก่อนสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ธันวาคม

หลังจากล้มเหลวในการดำเนินการหลายต่อหลายครั้ง เมื่อเดือนที่แล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้หยุดสู้รบเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ซึ่ง กูเตอร์เรส ให้คำจำกัดความในวันศุกร์(8ธ.ค.) ว่าเป็นฝันร้ายด้านมนุษยธรรม

สหรัฐฯอยากใช้การทูตของตนเอง แทนความเคลื่อนไหวของสหประชาชาติ ในความพยายามช่วยเหลือตัวประกันเพิ่มเติม และกดดันอิสราเอลใช้แนวทางต่างๆที่ดีขึ้นกว่าเดิมในการปกป้องชีวิตพลเรือนในกาซา พร้อมกับเน้นย้ำว่าการโจมตีของฮามาสเล่นงานอิสราเอล ได้สังหารพลเรือนไปราวๆ 1,200 ราย

อย่างไรก็ตาม แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับในวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) ว่ามีช่องว่างระหว่างความตั้งใจของอิสราเอลในการปกป้องพลเรือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคสนาม ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของฮามาส เปิดเผยว่ามีพลเรือนในฉนวนกาซา ถูกสังหารไปมากกว่า 17,480 ราย

อิสราเอล ทั้งทิ้งบอมบ์ถล่มฉนวนกาซาจากทางอากาศ กำหนดมาตรการปิดล้อมและเปิดฉากจู่โจมทางภาคพื้น บีบให้คนส่วนใหญ่ในฉนวนปาเลสไตน์ที่มีประชากรราวๆ 2.3 ล้านคน ต้องไร้ถิ่นฐาน

ในวอชิงตัน อัยมัน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน บอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์(8ธ.ค.) ว่าหากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติล้มเหลวในการเห็นชอบร่างมติ "มันจะเท่ากับเป็นการมอบใบอนุญาตแก่อิสราเอล ในการเดินหน้าสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ในกาซา"

นอกเหนือจากข้อเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในทันที ร่างมติยังระบุด้วยว่าพลเรือนชาวปาเลสไตน์และอิสราเอลต้องได้รับการปกป้อง และเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข

กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(8ธ.ค.) ว่าข้อตกลงหยุดยิงพังครืนลงเพราะพวกฮามาส

"เสถียรภาพและความมั่นคงของอิสราเอลและชาวกาซา จะบรรลุได้ก็ต่อเมื่อพวกฮามาสถูกกำจัด" เออร์ดานกล่าว "ดังนั้น เส้นทางที่แท้จริงที่จะรับประกันสันติภาพมีเพียงหนทางเดียว ก็คือผ่านการสนับสนุนภารกิจของอิสราเอล และแน่นอนว่าไม่ใช่เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิง"

ปัจจุบันอิสราเอลยกระดับโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งสหประชาชาติบอกว่าไม่มีที่ไหนในฉนวนแห่งนี้ที่ปลอดภัย

(ที่มา:รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น