คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันพุธ (15 พ.ย.) เรียกร้อง "ขยายกรอบเวลาการหยุดพักเพื่อมนุษยธรรม" ในฉวนกาซา นับเป็นการเปิดปากเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบงันมานาน นับตั้งแต่ความขัดแย้งนองเลือดระหว่างอิสราเอลกับฮามาสปะทุขึ้น
ญัตติที่เตรียมการโดยมอลตา และมีประเทศสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยกมือสนับสนุน 12 ชาติ "เรียกร้องให้ขยายกรอบเวลาหยุดพักเพื่อมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน และขยายแนวกันชนไปทั่วทั้งกาซา ในจำนวนวันเวลาที่เพียงพอสำหรับเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรมเข้าถึงพลเรือนในดินแดนที่ถูกปิดล้อมแห่งนี้"
รายงานข่าวระบุว่า มี 3 ชาติที่งดออกเสียง ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และรัสเซีย
บรรดาคณะทูตเปิดเผยว่าเหล่าชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รอคอยไม่กำหนดวันเวลาของการลงมติ จนกระทั่งพวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่า ญัตติดังกล่าวจะประสบความสำเร็จผ่านความเห็นชอบ
หลังจากเกิดเหตุนักรบฮามาสจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และตามด้วยอิสราเอลเปิดปฏิบัติการแก้แค้นทิ้งบอมบ์ถล่มฉนวนกาซาอย่างไม่รามือ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติพยายามผ่านญัตติบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
อย่างไรก็ตาม 4 ร่างญัตติประสบความล้มเหลวไม่ผ่านความเห็นชอบในเดือนตุลาคม เผยให้เห็นถึงความแตกแยกยาวนานภายในองค์กรแห่งนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ด้วยรัสเซียและจีนยืนอยู่กับอีกฝ่าย ส่วนสหรัฐฯ ก็อยู่ในฝ่ายตรงข้าม
ด้วยที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกลายสภาพเป็นเป็ดง่อย ทางสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลงมติเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม สนับสนุนด้วยเสียงส่วนใหญ่ต่อร่างมติที่ไม่ผูกมัดญัตติหนึ่ง ที่เรียกร้องให้ "หยุดพักเพื่อมนุษยธรรมในทันที" ทั้งนี้ สหรัฐฯ และอิสราเอลโหวตคัดค้านร่างดังกล่าว เนื่องจากมันไม่ได้การพาดพิงถึงพวกฮามาส
ภายใต้การนำของสมาชิกหมุนเวียน 10 ชาติ ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติได้เปิดการพูดคุยรอบใหม่เกี่ยวกับญัตติหนึ่ง แต่การเจรจาต้องพบกับความยุ่งยากในถ้อยคำที่ใช้เรียกเร้องหยุดการสู้รบ
สหรัฐฯ คัดค้านการใช้คำจำกัดความ "หยุดยิง" จากการเปิดเผยของเหล่าผู้แทนทูต ส่วนคำอื่นๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ "พักรบ" และ "หยุดพัก"
"ผมรู้ว่าเราทุกคนผิดหวังกับความเฉื่อยชาของคณะมนตรีความมั่นคงในช่วง 40 วันที่ผ่านมา" จาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันพุธ (15 พ.ย.)
ญัตติที่ผ่านความเห็นชอบในวันพุธ (15 พ.ย.) ได้พาดพิงถึงเด็กๆ ในทุกย่อหน้า ในนั้นรวมถึงเรียกร้องทุกฝ่ายปฏิบัติตามพันธสัญญาของตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการปกป้องพลเรือน โดยเฉพาะเด็กๆ
นอกจากนี้ ญัตตินี้ยังเรียกร้องปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกพวกนักรบฮามาสและกลุ่มอื่นๆ ควบคุมตัวในทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะเด็กๆ
เวเนสซา ฟราเซียร์ เอกอัครราชทูตมอลตาประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นหนึ่งเดียวกันในความประสงค์ส่งเสียงออกมาในครั้งนี้ ทั้งนี้แม้ยอมรับว่ามีความเห็นต่างในจุดยืนของแต่ละชาติ แต่เธอบอกว่าทุก 15 ชาติสมาชิก "ปรารถนาปกป้องชีวิตและช่วยพลเรือนให้มีโอกาสหยุดพักชั่วคราว"
อิสราเอลประกาศขุดรากถอนโคนฮามาส ซึ่งควบคุมฉนวนกาซา หลังนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้บุกจู่โจมอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 รายและจับตัวประกันไปประมาณ 240 คน
นับตั้งแต่นั้น อิสราเอลดำเนินการแก้แค้นด้วยการเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกาซาอย่างหนักหน่วงและไม่รามือ ตามด้วยส่งทหารราบออกปฏิบัติการทางภาคพื้น ลุยลึกเข้าไปในฉนวนแห่งนี้ และจนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วมากกว่า 11,500 คน ในนั้นเป็นเด็กหลายพันราย
(ที่มา : เอเอฟพี)