xs
xsm
sm
md
lg

จีนจวกสหรัฐฯ หน้าไหว้หลังหลอก วีโต้คณะมนตรี UN ขวางหยุดยิงในกาซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ แถลงเมื่อวันเสาร์ (9 ธ.ค.) ว่า การที่สหรัฐฯ คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ "ฮามาส" เป็นพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอก

เมื่อวันศุกร์ (8 ธ.ค.) สหรัฐฯ เป็นเพียงประเทศเดียวที่โหวตคัดค้านมติที่เสนอโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับการรับรองจากประเทศอื่นๆ มากกว่า 90 ชาติ ซึ่งเรียกร้อง "ข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในทันที" และ ปล่อยตัวประกันที่ถูกพวกนักรบฮามาสจับตัวไปอย่างไม่มีเงื่อนไขและโดยทันที"

ทั้งนี้ ในสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 15 ชาติ มี 13 ประเทศที่สนับสนุนมติดังกล่าว ขณะที่สหราชอาณาจักรงดออกเสียง

โรเบิร์ต วู้ด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ให้คำอธิบายจุดยืนคัดค้านใช้สิทธิวีโต้ โดยบอกว่าร่างมตินี้ "ห่างจากความเป็นจริง" ขัดแย้งกับคำแนะนำของสหรัฐฯ ล้มเหลวในการประณามการโจมตีก่อการร้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ของพวกฮามาส พร้อมอ้างว่าการหยุดยิงโดยปราศจากเงื่อนไขจะเป็นการเปิดทางให้นักรบกลุ่มนี้โจมตีซ้ำรอยในภายหลัง

เขาอ้างด้วยว่าร่างมติดังกล่าวล้มเหลว "ในการสนับสนุนการคืนชีพการหยุดพักเพื่อมนุษยธรรม" พร้อมเน้นย้ำว่า "การสูญเสียทุกๆ ชีวิตชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ เป็นเรื่องน่าเศร้า"

จาง แสดงความคิดเห็นต่อผลการลงมติ โดยบอกว่า "รู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก" ที่สหรัฐฯ ขัดขวางมติดังกล่าว ชี้ว่าคำแก้ตัวสำหรับความเคลื่อนไหวนี้เป็นเรื่องไร้สาระ พร้อมเน้นว่าการเปิดทางให้เดินหน้าสู้รบต่อไป ในขณะเดียวกันก็อ้างว่ามีความห่วงใยต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในกาซา และความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เป็นพฤติกรรมที่ขัดแย้งในตัวเอง

นับตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้ง สหรัฐฯ ขัดขวางมติของสหประชาชาติสำหรับเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ มากมายไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติเห็นชอบมติหนึ่งที่เรียกร้อง "หยุกพักความเป็นปรปักษ์เพื่อมนุษยธรรม" ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุน 12 เสียง ส่วนรัสเซีย สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรงดออกเสียง

อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาส หลังนักรบกลุ่มนี้บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับตัวประกัน 240 คน ปฏิบัติการตอบโต้รุกรานของอิสราเอล เข่นฆ่าผู้คนไปกว่า 17,000 คนในกาซา ในนั้นราว 70% เป็นผู้หญิงและเด็ก

ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน คู่ขัดแย้งในสงครามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่มีกาตาร์เป็นคนกลาง โดยฮามาสยินยอมปล่อยตัวประกันหลายสิบคน แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์จำนวนมากออกจากเรือนจำต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่แล้วข้อตกลงที่เปราะบางได้พังครืนลง ด้วยทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น