ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้รับการอารักขาจากเครื่องบินขับไล่รัสเซีย 4 ลำ ในการเดินทางเยือนตะวันออกกลาง ในวันพุธ(6ธ.ค.) สำหรับการเยือนต่างแดนที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก ซึ่งเขาได้ใช้โอกาสนี้พบปะหารือกับบรรดาผู้นำชาติต่างๆ ในนั้นรวมถึงในประเด็นกำลังผลิตน้ำมันและโอเปกพลัสกับมกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย
การพบปะกับมกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลง แม้โอเปกพลัส กลุ่มซึ่้งประกอบด้วยโอเปกและพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม
เครื่องบินของประธานาธิบดี ขนาบข้างด้วยเครื่องบินขับไล่ซูคอย-35S ซึ่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพขณะที่ฝูงบินนี้กำลังบินอยู่ข้างๆเครื่องบินอิลยูชิน อิล-96 ของปูติน ที่บินจากรัสเซียมุ่งหน้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ในอาบูดาบี ประธานธิบดีชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน เรียก ปูติน ว่าเพื่อนรักและเครื่องบินของยูเออี ให้การต้อนรับประมุขวังเครมลินด้วยการบินปล่อยไอพ่นเป็นสีธงชาติรัสเซีย
"ความสัมพันธ์ของเรา ส่วนใหญ่สืบเนื่องจากจุดยืนของคุณ ได้พุ่งสู่ระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" ปูตินบอกกับชีค โมฮัมเหม็ด "ยูเออีคือคู่ค้าหลักของรัสเซียในโลกอาหรับ"
ปูติน บอกว่ารัสเซียและยูเออี ร่วมไม้ร่วมมือกัน ในฐานะสมาชิกโอเปกพลัส ซึ่งมีกำลังผลิตน้ำมันรวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของน้ำมันโลก พร้อมบอกว่าทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาสและความขัดแย้งยูเครนด้วย
หลังเสร็จสิ้นภารกิจในยูเออี ปูติน เดินทางต่อไปยังซาอุดีอาระเบีย และไปถึงในวันพุธ(6ธ.ค.) พร้อมได้พบปะกับมกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 ทั้งนี้ ปูติน เดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางครั้งสุดท้ายในเดือนกรกฏาคม 2022 โดยคราวนั้นเขาได้พบปะกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ในเตหะราน
ขณะเดียวกันการเดินทางครั้งนี้ยังเป็นการเดินทางออกนอกอดีตสหภาพโซเวียตเพียงครั้งที่ 3 ของผู้นำรัสเซีย นับตั้งแต่เขาสั่งกองทัพยกพลรุกรานยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ตามหลังอิหร่านและจีน และมีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางเพิ่มอิทธิพลของพวกเขาในตะวันออกกลาง
มกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้นำโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ให้การต้อนรับ ปูติน จากนั้นทั้ง 2 คนได้นั่งคุยกันสั้นๆโดยมีการแพร่ภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ "ไม่มีอะไรที่จะขีดขวางพัฒนาการในความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างเรา" ปูตินบอกกับมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด พร้อมเชิญมกุฏราชกุมารเดินทางเยือนมอสโก "มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราทุกคน ที่ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลและคำเมินต่างๆกับคุณ ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค การพบปะกันของเรานั้น ถูกที่ถูกเวลา" ผู้นำรัสเซียระบุ
ทางมกุฏราชกุมาร ตอบกลับว่าความร่วมมือทวิภาคีช่วยปลดเปลื้องความตึงเครียดมากมายในตะวันออกกลางและเป็นตัวสนับสนุนส่งเสริมความมั่นคง และจะเดินหน้าทำเช่นนี้ต่อไปในอนาคต
ก่อนหน้าการพบปะหารือ เครมลินเปิดเผยว่าผู้นำทั้ง 2 จะหารือกันเกี่ยวกับตลาดน้ำมัน เช่นเดียวกับแนวทางต่างๆในการส่งเสริมหาทางลดสถานการณ์ความตึงเครียดในสงครามกาซา
นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ปูติน ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) ออกหมายจับฐานก่ออาชญากรรมสงคราม ต่อกรณีรุกรานยูเครน เขาไม่เข้าร่วมการประชุมกลุ่มบริกส์ในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนสิงหาคม เนื่องจากแอฟริกาใต้ให้การรับรองไอซีซี เพื่อหลีกเลี่ยงก่อประเด็นถกเถียงทางการเมืองบดบังการประชุม และไม่ได้เข้าร่วมการประชุมซัมมิตจี20 ในอินเดีย ในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตามทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้ให้ลงนามในสนธิสัญญาก่อตั้งไอซีซี นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีพันธสัญญาที่ต้องจับกุมตัวปูติน
ภารกิจต่อไปของปูติน ให้การต้อนรับ อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ที่จะเดินทางมาพูดคุยหารือในกรุงมอสโกวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) ในขณะที่ทั้ง 2 ประเทศ กระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหาร ตามหลังเจอมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)