ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังไม่มีขุมกำลังทางทหารเพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในการรุกรานไต้หวันภายในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่าเกาะปกครองตนเองแห่งนี้จะมีเวลาเพิ่มเติมสำหรับยกระดับศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง จากความเห็นของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงรายหนึ่งของไต้หวัน
"ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หรืออย่างน้อยภายใน 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า" เวลลิงตัน กู่ ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ในไทเป "ถ้าจีนต้องการปฏิบัติการยกพลขึ้นบกเพื่อยึดไต้หวัน ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีศักยภาพทำเช่นนั้นภายในปี 2027"
ความเห็นของ กู่ สะท้อนคำประเมินเมื่อปีที่แล้วของ พล อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมแห่งสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ที่บอกว่า ปักกิ่งจะยังไม่พร้อมสำหรับบีบบังคับรวมชาติกับไต้หวัน "ไปอีกสักพัก" โดยเขาอ้างว่ากองทัพปลดแอกประชาชนจีนไม่มีประสบการณ์หรือภูมิหลังที่จะประสบความสำเร็จในการรุกรานเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ และยังไม่ได้ฝึกฝนสำหรับปฏิบัติการดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม พล อ.มาร์ค มิลลีย์ บอกในตอนนั้นว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องการให้กองทัพปลดแอกประชาชนจีนเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานไต้หวันภายในปี 2027
กู่ กล่าวว่ากรอบเวลาที่ล่าช้าออกไปเกี่ยวกับการรุกรานไต้หวันของจีน เปิดโอกาสให้ ไทเป มีเวลาเพิ่มเติมสำหรับเดินหน้ายกระดับกองทัพของตนเอง พร้อมระบุกองกำลังไต้หวันจะใช้ขีปนาวุธต่อต้านเรือ ระบบจรวด HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โดรน และอาวุธต่อต้านรถถังเจฟลิน ต่อสู้กับกองกำลังของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน หากว่าพวกเขาพยายามยกพลขึ้นฝั่งตามแนวชายหาดของเกาะแห่งนี้
ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันร้อนระอุขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการเข้ามาแทรกแซงในภูมิภาคมากขึ้นเรื่อยๆ ของสหรัฐฯ และการซ้อมรบขนานใหญ่ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
ทั้งนี้ จีนประกาศรวมชาติกับมณฑลที่แยกตัวออกไปแห่งนี้ และถ้าจำเป็นก็จะใช้กำลัง ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุในเดือนกันยายน ว่า การรวมชาติกับไต้หวันเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อที่จะทำให้จีนเป็นประเทศที่ทันสมัย มั่งคั่ง เข้มแข็ง ชนชาติจีนกลับสู่ความรุ่งเรือง (Great Rejuvenation) อีกครั้ง
กู่ กล่าวยกย่องสหรัฐฯ สำหรับการเร่งรีบเสริมความเข้มแข็งแก่กองกำลังไต้หวันในการรับมือกับความเป็นไปได้ของการถูกรุกราน ด้วยการเร่งส่งมอบอาวุธและฝึกฝนทหาร เขาบอกด้วยว่าความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ครอบกลุ่มทุกแง่มุมของการป้องกันตนเองของเกาะแห่งนี้ "ผมพูดได้เพียงว่า พวกเขาใช้ทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยเรา ไม่สำคัญว่าเป็นการฝึกฝน หรือยกระดับศักยภาพการสู้รบ"
จีนต้องเผชิญหน้ากับขวบปีแห่งความไม่แน่นอน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและความขัดแย้งในยูเครนและอิสราเอล จากความเห็นของกู่ นอกจากนี้ เขายังคาดหมายด้วยว่าปักกิ่งจะยกระดับกดดันไทเป หากว่าผู้สมัครจากพรรครัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตาม กู่ มองว่า "ผมไม่คิดว่าจีนพร้อมสำหรับใช้ปฏิบัติการทางทหารกับเรา หลังผลลัพธ์ของศึกเลือกตั้งปรากฏออกมาในวันที่ 13 มกราคม เราไม่เห็นว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมหรือมีศักยภาพทำเช่นนั้น"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)