โจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน ออกมาเย้ยหยันรัฐบาลจีนเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อ เมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) หลังจากสถานทูตจีนในกรุงเทพฯ แสดงความไม่พอใจที่สถานีโทรทัศน์ Thai PBS นำเสนอบทสัมภาษณ์ในประเด็นที่อ่อนไหว
อู๋ ให้สัมภาษณ์กับ พงศธัช สุขพงษ์ ผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ในไทเป และบางส่วนของการสัมภาษณ์ถูกนำออกอากาศในช่วงข่าวค่ำ ในหัวข้อ "รมว.ต่างประเทศไต้หวันประเมินแนวโน้มความเป็นไปได้ของสถานการณ์การรุกรานไต้หวันด้วยกำลังอาวุธจากจีน" ในวันที่ 3 พฤศจิกายน จากนั้นบทสัมภาษณ์ฉบับสมบูรณ์ได้ถูกอัปโหลดลงบนช่องยูทูบของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้
ระหว่างการสัมภาษณ์ อู๋ กล่าวว่า จีน กำลังอาศัยวิธีการต่างๆ เช่น การข่มขู่ด้วยกำลังทหาร การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และการลิดรอนพื้นที่ในเวทีนานาชาติของไต้หวัน เพื่อบีบบังคับให้ไต้หวันยอมจำนน เพื่อพิชิตเป้าหมายตามกลยุทธ์ของของซุนวู นั่นคือ "บีบให้คู่ต่อสู้ยอมจำนน แทนการทำสงคราม"
อย่างไรก็ตาม อู๋ บอกต่อว่า แม้เผชิญหน้ากับการยั่วยุจากจีน แต่ไต้หวันยังคงมุ่งมั่นสวมบทบาทหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบในประชาคมโลก หลีกเลี่ยงการเป็นฝ่ายยั่วยุท้าทายความขัดแย้ง และยินดีที่จะเปิดการเจรจาระหว่างสองฝั่งของช่องแคบไต้หวัน ภายใต้เงื่อนไขความเท่าเทียมกันและสมศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ อู๋ ยังแสดงความปรารถนาของไต้หวันในการประสานงานทางการทูตกับจีน พร้อมอ้างคำกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เนื่องในวันชาติไต้หวันประจำปี 2023 ที่บอกว่า "สันติภาพเป็นตัวเลือกเดียวของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน” พร้อมให้คำจำกัดความคำพูดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เมื่อปี 2019 ที่เรียกร้องให้ไต้หวันยอมรับสูตร "หนึ่งประเทศ 2 ระบบ" ว่าเป็นความพยายามเปลี่ยนไต้หวันเป็นฮ่องกง 2
ในวันเสาร์ (11 พ.ย.) สถานทูตจีนในกรุงเทพฯ เผยแพร่ถ้อยแถลงในเฟซบุ๊ก ให้คำจำกัดความ อู๋ ว่าเป็น "คนที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน" ที่ปลุกปั่นคำพูดเหลวไหลเกี่ยวกับการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน พร้อมทั้งยังโจมตีข้อเสนอที่รวมประเทศอันหนึ่งเดียวกันอย่างสันติของจีนอย่างร้ายแรง "คำพูดที่ไร้สาระนี้ไม่คุ้มค่าที่จะหักล้าง"
นอกจากนี้ สถานทูตจีนยังพาดพิงถึงสถานีโทรทัศน์ Thai PBS โดยบอกว่าสื่อแห่งนี้ได้นำเสนอเวทีที่เผยแพร่คำพูดเหลวไหลให้แก่คนที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน ซึ่งทำลายผลประโยชน์ของจีนและทำร้ายความรู้สึกของประชาชนชาวจีน ดังนั้นฝ่ายจีนจึงต้องแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำเช่นนี้อย่างรุนแรง
ถ้อยแแถลงระบุต่อว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่แบ่งแยกไม่ได้ของจีน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การกระทำที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญในเรื่องเกี่ยวกับบูรณภาพแห่งดินแดนและการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนของจีน ไม่ว่าจะเป็นการกระทำใดก็ตาม ล้วนแต่ตรงกันข้ามกับมิตรภาพระหว่างประชาชนของจีนและไทย เป็นการกระทำที่ทำร้ายประเทศอื่นๆ และประชาชนของประเทศอื่นๆ โดยใช้เสรีภาพของสื่อเป็นข้ออ้าง ไม่ว่าเป็นการกระทำใดๆ ก็ตาม ล้วนเป็นการใช้เสรีภาพของสื่ออย่างพร่ำเพรื่อ
ในวันเดียวกันนั้น โกลบอลไทม์ส สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน เรียกร้อง Thai PBS แก้ไขสิ่งผิดให้เป็นถูก ในนั้นรวมถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเอกราชของไต้หวัน พร้อมเน้นย้ำคำกล่าวของสถานทูต บอกว่าการกระทำใดๆ ที่ทำร้ายประเทศอื่นภายใต้ข้ออ้างสิทธิเสรีภาพสื่อ คือการใช้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในทางที่ผิด
อู๋ ได้รีทวีตข้อความที่โพสต์โดยสถานทูตจีนและหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส ในวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) พร้อมเหน็บแนมว่า แม้จีนเป็นหนึ่งในอันดับล่างสุดของดัชนีเสรีภาพสื่อโลก แต่ยังกล้ามาบรรยายสื่อมวลชนไทย ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าเสรีภาพ
จนถึงวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) วิดีโอที่ อู๋ ให้สัมภาษณ์ Thai PBS ถูกลบออกจากยูทูบแล้ว และลิงก์ URL ที่นำไปสู่หน้าเพจดังกล่าว เหลือแต่ความว่างเปล่า
(ที่มา : ไต้หวันนิวส์)
