จีนเมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) สั่งกองทัพ "ตื่นตัวขึ้นสูงอยู่เสมอ" หลังเรือรบสหรัฐฯและแคนาดา ล่องผ่านช่องแคบไต้หวันอีกรอบในช่วงกลางสัปดาห์ นับเป็นการร่วมกันล่องเรือผ่านช่องแคบแห่งนี้ของทั้ง 2 ชาติ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน
เรือพิฆาตชั้นอาร์เลห์เบิร์ก ยูเอสเอส ราฟาเอล เปราลตา และเรือฟริเกตชั้นฮาลิแฟ็กซ์ เอชเอ็มซีเอ ออตตาวา แห่งกองทัพเรือแคนาดา ทำการล่องตามปกติผ่านช่องแคบไต้หวันในวันพุธ (1 พ.ย.) จากการเปิดเผยของกองทัพเรือสหรัฐฯ
"ทหารในยุทธบริเวณจะยังคงอยู่ภาวะตื่นตัวขั้นสูงอยู่เสมอ และจะมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ เช่นเดียวกับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค" พ.อ.สื่อ ยี่ โฆษกของกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ระบุในถ้อยแถลงข่าว พร้อมประณามการล่องผ่านรอบล่าสุดว่าเป็น "โฆษณาชวนเชื่อ" และเผยว่ากองทัพเรือและกองทัพอากาศจีน ติดตามความเคลื่อนไหวของเรือรบทั้ง 2 ลำ ตลอดเวลาที่ล่องผ่านช่องแคบไต้หวัน
การล่องผ่านของเรือทั้ง 2 ลำ มีขึ้นหลังจากเรือรบอื่น 2 ลำ ของสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่งช่องผ่านช่องแคบแห่งนี้ที่กั้นระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อวันที่ 9 กันยายน
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกได้ยกระดับปฏิบัติการที่เรียกว่า "เสรีภาพแห่งการล่องเรือ" ด้วยการส่งเรือล่องผ่านทั้งช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ น่านน้ำที่เป็นที่พิพาท เพื่อเสริมคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับน่านน้ำสากล ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความเดือดดาลจากปักกิ่ง
กองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่าการล่องเรือเป็นการดำเนินการสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และผ่านแนวกันชนของช่องแคบ ที่อยู่นอกเหนือจากเขตแดนทางทะเลของรัฐชายฝั่งไหนๆ
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) ว่าพวกเขาได้สังเกตการณ์การล่องเรือผ่านเมื่อคืนวันพุธ (1 พ.ย.) เช่นกัน แต่บอกว่า "สถานการณ์เป็นไปอย่างปกติ"
จีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่จำเป็นต้องยึดคืนวันใดวันหนึ่ง ยกระดับกดดันทั้งทางทหารและการเมืองใส่เกาะปกครองตนเองแห่งนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดำดิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในเดือนกันยายน จีนส่งเครื่องบิน 103 ลำ บินรอบเกาะไต้หวัน ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในสิ่งที่ไทเปเรียกว่าครั้งมากสุดเท่าที่เคยมีมา ในประวัติศาสตร์เร็วๆ นี้
ล่าสุด ไต้หวันเปิดเผยว่าตรวจพบเครื่องบินไม่ทราบจำนวนของจีน บินวนรอบเกาะอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.) ในนั้นมีอยู่ 20 ลำ ที่บินข้ามเส้นกลางของช่องแคบไต้หวัน และเข้าไปยังทางตอนกลาง เหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ ของเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าเครื่องบินเหล่านั้นยังทำการลาดตระเวนสู้รบร่วมกับกองเรือของจีน ขณะที่ไทเปคอยจับตาสถานการณ์ด้วยเครื่องบินและกองเรือของตนเอง เช่นเดียวกับระบบขีปนาวุธที่ประจำการบนภาคพื้น
(ที่มา : เอเอฟพี)
