ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติไต้หวัน หรือสาธารณรัฐจีน 10 ต.ค. โดยย้ำว่าไต้หวันต้องการ “อยู่ร่วมกับจีนอย่างสันติ” ทว่า ได้ย้ำอย่างแข็งกร้าวว่า ไต้หวันจะต่อต้านการรุกรานของจีนเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยให้แก่อนุชน
การกล่าวสุนทรพจน์วันชาติไต้หวันนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายของไช่ ซึ่งดำรงตำแหน่งครบ 2 สมัย และหมดสิทธิลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ม.ค. ปี 2024 ไช่เคยยื่นข้อเสนอเจรจากับจีนหลายครั้ง แต่ผู้นำในกรุงปักกิ่งปฏิเสธเพราะมองว่า ไช่ ผู้นำพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีดีพี) มีเจตนาแบ่งแยกดินแดน
รัฐบาลจีนประกาศมาตลอดว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่จะต้องมารวมชาติมาตุภูมิในที่สุด และการใช้กองกำลังเข้ายึดคืนดินแดนยังเป็นทางเลือกของจีนหาก “จำเป็น”
จีนยังเรียกร้องให้ไช่ อิงเหวินรับรอง “จีนเดียว” แต่ไช่ปฏิเสธ
ในช่วงหนึ่งปีกว่ามานี้ จีนได้ระดมเพิ่มฝูงเครื่องบินรบและเรือรบจำนวนมากอย่างน่ากลัวในช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งจัดวอร์เกมสองชุดใกล้เกาะไต้หวัน ทำให้ช่องแคบไต้หวันร้อนระอุ
ด้านการเคลื่อนไหวทางทหารของฝั่งไต้หวัน เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวและทดลองปฏิบัติการของ ‘เรือดำน้ำชั้นไห่คุน’ ซึ่งใช้งบสร้าง 1.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นเรือดำน้ำที่ไต้หวันพัฒนาและสร้างขึ้นเองลำแรกในแผนการสร้างเรือดำน้ำทั้งหมด 8 ลำ ซึ่งใช้งบหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ เรือดำน้ำใหม่ของไต้หวันถือเป็นความก้าวหน้าใหญ่ในการเพิ่มขีดความสามารถของกองกำลังป้องกันดินแดนไต้หวันในยามที่จะต้องสู้ศึกกับจีน เรือดำน้ำลำแรกนี้จะถูกส่งมอบให้นาวีปลายปีหน้า (2024) ส่วนลำที่ 2 คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2027
ไต้หวัน มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐแห่งจีน ได้กำหนดวันที่ 10 ตุลาคม เป็นวันชาติ เพื่อรำลึกถึงวันเริ่มต้นเคลื่อนไหวการปฏิวัติซินไห่ที่ประสบชัยชนะในการโค่นล้มราชวงศ์ชิง และปิดฉากการปกครองระบอบจักรพรรดิจีนที่นยาวนานกว่า 2 พันปี ในปี ค.ศ.1911 พร้อมกับเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่แห่งยุคสาธารณรัฐแห่งจีน