สหรัฐฯ เริ่มส่งมอบกระสุนและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดแก่อิสราเอล และเพนตากอนกำลังตรวจสอบสต๊อกที่มีเพื่อดูว่ายังมีอื่นๆ อีกหรือไม่ ที่สามารถจัดหาได้อย่างรวดเร็ว สำหรับเสริมแสนยานุภาพแก่พันธมิตรแห่งนี้ ที่กำลังทำศึกสงครามกับฮามาสเข้าสู่วันที่ 3 ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่มีคำยืนยันว่ามีพลเรือนสหรัฐฯ เสียชีวิตในเหตุกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกจู่โจมอิสราเอลสายฟ้าแลบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 11 ราย
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่าเครื่องบินหลายลำได้เทกออฟขึ้นไปแล้ว แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับอาวุธ เนื่องจากไม่อยู่ในสถานะที่สามารถเปิดเผยข้อมูลการส่งมอบที่อ่อนไหว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ยังเตือนด้วยว่าสหรัฐฯ กำลังจับตาพวกฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มนักรบอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นว่าการตัดสินใจโยกย้ายกองเรือรบอเมริกาเข้าไปยังภูมิภาคนี้ เพื่อป้องปรามนักรบเหล่านี้ จากการเข้ามาหรือยกระดับความขัดแย้งกับอิสราเอล
ความเคลื่อนไหวส่งมอบอาวุธมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงว่าจำนวนชาวสหรัฐฯ เสียชีวิตในสงครามระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล เพิ่มเป็น 11 ราย
เจ้าหน้าที่รายนี้เปิดเผยว่าสหรัฐฯ กำลังส่งผ่านสัญญาณและสารอื่นๆ เพื่อที่พวกกลุ่มหัวรุนแรง และประเทศต่างๆ จะได้รับรู้ว่าพวกเขาไม่ควรตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพันธสัญญาของอเมริกาต่อการสนับสนุนการป้องกันตนเองของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ว่าจะมีการใช้กำลังทหารของอเมริกาด้วยหรือไม่
กระนั้นแม้เจ้าหน้าที่รายนี้บอกว่าสหรัฐฯ มีศักยภาพในการสนับสนุนอาวุธที่จำเป็นแก่ทั้งยูเครนและอิสราเอล ขณะเดียวกัน ยังสามารถธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของอเมริกา แต่มีความกังวลเกี่ยวกับการป้อนอาวุธอย่างรวดเร็วเข้าสู่สงครามใหม่
คริสติน วอร์มุธ รัฐมนตรีว่าการทบวงทหารบกสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ (9 ต.ค.) ว่าสภาคองเกรสจำเป็นต้องผ่านงบประมาณเพิ่มเติมอย่างรวดเร็ว เพื่อที่อเมริกาจะสามารถมอบอาวุธและกระสุน ที่ทั้งอิสราเอลและยูเครนต้องการในเวลานี้ "มีความตั้งใจเอนเอียงเดินหน้าให้การสนับสนุนอิสราเอล" เธอกล่าว
"แต่โดยเฉพาะกระสุนและความสามารถในการสนับสนุนอิสราเอลและยูเครนพร้อมๆ กัน งบประมาณเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มศักยภาพของเราในการยกระดับกำลังผลิต และจากนั้นต้องจ่ายค่ากระสุนด้วยตนเองด้วย" วอร์มุธ ระบุ
ชัดเจนว่าเวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเป็นไปได้ที่ทั้งอิสราเอลและยูเครน จะแย่งกันร้องขออาวุธเพิ่มเติม และแม้ทั้ง 2 ฟากฝั่งของสภาคองเกรสจะให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งในการมอบความช่วยเหลือแก่อิสราเอล แต่ก้าวย่างถัดจากนี้ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรยังไม่มีตัวประธาน หลังประธานจากรีพับลิกันถูกปลดจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับการมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครน ซึ่งถูกคัดค้านจากกลุ่มขวาจัดรีพับลิกัน อาจจะก่อประเด็นปัญหาแทรกซ้อนแก่ความพยายามผ่านงบประมาณช่วยเหลืออิสราเอลเช่นกัน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากผู้เสียชีวิต 11 รายตามคำยืนยันของไบเดนแล้ว รายงานระบุว่ายังมีพลเมืองอเมริกาอีกจำนวนหนึ่งซึ่งไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดที่ยังหาตัวไม่พบ ไม่ชัดเจนว่าพวกที่สูญหายเหล่านี้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ หรืออาจหลบซ่อนตัวอยู่ หรือไม่ก็ถูกจับเป็นตัวประกัน
ไบเดน เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่พลเมืองอเมริกาอาจเป็นหนึ่งในบรรดาตัวประกันที่ถูกฮามาสควบคุมตัว แต่บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังหาทางยืนยันความเป็นไปได้ดังกล่าว "ผมสั่งให้ให้คณะทำงาน ทำงานร่วมกับทีมงานอิสราเอล ในทุกแง่มุมของวิกฤตตัวประกัน ในนั้นรวมถึงแบ่งปันข่าวกรองและใช้ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วรัฐบาลสหรัฐฯ ปรึกษาหารือและแนะนำคณะทำงานของอิสราเอล ในประเด็นความพยายามช่วยเหลือตัวประกัน"
การโจมตีของฮามาสและการตอบโต้ของอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากว่า 1,100 คน และบาดเจ็บหลายพันคน ในทั้ง 2 ฝ่าย
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (8 ต.ค.) ว่าเขาสั่งการให้กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีฟอร์ด ล่องไปยังทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เตรียมพร้อมช่วยเหลืออิสราเอล
ออสตินระบุว่า ยูเอสเอส เจรัลด์ อาร์.ฟอร์ด ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินใหม่ที่สุดและล้ำสมัยที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ พร้อมด้วยเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธลำหนึ่ง และเรือพิฆาตติดขีปนาวุธ 4 ลำ กำลังมุ่งหน้าไปภูมิภาคแถบนี้ นอกจากนี้ ฝูงบินขับไล่ของสหรัฐฯ จะถูกส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน ในนั้นมีทั้ง F-35, F-15, F-16 และ A-10
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรายหนึ่ง อ้างว่าความกังวลพวกฮิซบอลเลาะห์ อาจเปิดศึกอีกด้านความอิสราเอล คือเหตุผลหลักของการเคลื่อนย้ายกองเรือรบไปยังทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเจ้าหน้าที่รายนี้บอกว่าอเมริกามีความกังวลใหญ่หลวงว่า ฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มนักรบอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อาจตัดสินใจผิดๆ ในความพยายามยกระดับสงครามให้ลุกลาม
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนและกระทรวงการต่างประเทศ เข้าให้ข้อมูลโดยสรุปแก่สมาชิกวุฒิสภาในคืนวันอาทิตย์ (8 ต.ค.) และชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เปิดเผยว่าพวกเขามั่นใจว่าสหรัฐฯ จะมอบทุกอย่างที่จำเป็นแก่อิสราเอล
(ที่มา : เอพี)
