เอาแล้วไง! กบฏเยเมนลองของปล่อยโดรนพุ่งหาเรือรบสหรัฐฯ แต่ถูกยิงสกัดเอาไว้ได้

เรือรบอเมริกาลำหนึ่งสอยร่วงโดรนลำหนึ่งที่พุ่งมาจากทิศของเยเมนในวันพุธ (15 พ.ย.) ตามการเปิดเผยของกองทัพสหรัฐฯ ในขณะที่กบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านบอกว่าพวกเขาเป็นคนปล่อยโดรนลำดังกล่าวเอง และเตือนว่าจะมีการตอบโต้เอาคืนอย่างแน่นอน

กบฏฮูตีอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกองกำลังรัฐบาลในเยเมน และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Axis of Resistance หรือกลุ่มอักษะแห่งการต่อต้านอิสราเอล ชาติกำลังติดหล่มในความขัดแย้งทำลายล้างกับฮามาส ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ได้โหมกระพือเหตุโจมตีเล่นงานกำลังพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

กองกำลังผสม Axis of Resistance ประกอบด้วยกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านอิสราเอลและอิทธิพลของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ประกอบด้วย กลุ่มฮามาส กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กองกำลังติดอาวุธในอิรัก และกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน

"ในวันที่ 15 พฤศจิกายน และระหว่างล่องผ่านน่านน้ำสากลในทะเลแดง ลูกเรือของเรือยูเอสเอส โธมัส ฮัดเนอร์ ประจันหน้ากับโดรนลำหนึ่งที่มีต้นทางจากเยเมน และกำลังมุ่งหน้าในทิศทางเข้าหารือ" กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง อ้างถึงเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี

"ลูกเรือของเรือฮัดเนอร์ต่อสู้กับมันและสอยโดรนจนร่วง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรสหรัฐฯ ไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นกับฝ่ายสหรัฐฯ และเรือไม่ได้รับความเสียหายใดๆ" ถ้อยแถลงระบุ

โมฮัมเมด อาลี อัล-ฮูตี สมาชิกของสภาการเมืองสูงสุดของกบฏฮูตี เขียนบนสื่อสังคมออนไลน์ ว่า อากาศยานลำดังกล่าวเป็นของทางกลุ่ม และประกาศกร้าวขอสงวนสิทธิในการตอบโต้เหตุทำลายโดรนของพวกเขาในครั้งนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกองทัพเรือสหรัฐฯ สอยร่วงขีปนาวุธหลายลูกและโดรนหลายลำเมื่อเดือนที่แล้ว ที่พวกเขาอ้างว่าถูกปล่อยออกมาโดยกบฏฮูตี ซึ่งยึดกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนในปี 2014 และยังคงควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

การสอยร่วงโดรนหนล่าสุดนี้ สัมพันธ์กับการสู้รบรอบล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งปฏิบัติการจู่โจมจากฉนวนกาซา เล่นงานอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับตัวประกันไปประมาณ 240 คน

นับตั้งแต่นั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการจู่โจมทั้งทางอากาศ ทางบก และทางทะเลต่อฉนวนกาซา ที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮามาส และทางกระทรวงสาธารณสุขของดินแดนแห่งนี้ เผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 11,500 คน

ตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมากโหมกระพือความโกรธแค้นในวงกว้างในตะวันออกกลาง และเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดเหตุโจมตีกำลังพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับอิสราเอล จากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม

กบฏฮูตีเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า ได้ทำการสอยร่วงโดรน MQ-9 ที่ถูกส่งมาสอดแนม ส่วนหนึ่งแรงสนับสนุนที่วอชิงตันมอบให้แก่อิสราเอล ในขณะเดียวกัน กองกำลังอเมริกาในอิรักและซีเรียต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยจรวดและโดรนหลายสิบรอบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

กองทัพสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีสถานที่ต่างๆ ในซีเรีย ที่ทางเพนตากอนกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับอิหร่าน 3 รอบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าเหตุโจมตีกำลังพลของสหรัฐฯ ยังเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

(ที่มา : เอเอฟพี)