xs
xsm
sm
md
lg

ขนาดไหนก็กล้าทำ?! อิสราเอลส่งรถถังจ่อหน้าโรงพยาบาลหลักในกาซาซิตี้ ตะวันออกกลางเดือดปุด กังวลสงครามลามออกนอกกาซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพที่เผยแพร่โดย นพ.มาราวัน อบู ซาดา แสดงให้เห็นทารกชาวปาเลสไตน์ที่คลอดก่อนกำหนดถูกนำมาวางอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลอัลชีฟา ในเมืองกาซาซิตี้ เมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) ภายหลังตู้อบของโรงพยาบาลใช้งานไม่ได้ เนื่องจากเครื่องปั่นไฟหยุดทำงานเพราะหมดเชื้อเพลิง
อิสราเอลเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.) เอารถถังมาจอดคุมเชิงหน้าประตูโรงพยาบาลหลักของกาซาซิตี้ ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายหลักในการสู้รบระหว่างกองทหารรัฐยิวกับพวกนักรบฮามาสเพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน ก็มีความกังวลยิ่งขึ้นว่า สงครามอาจลามออกนอกกาซา หลังเกิดการปะทะรุนแรงขึ้นบริเวณชายแดนด้านเหนือของอิสราเอลที่ติดกับเลบานอน และอเมริกาโจมตีทางอากาศใส่ที่มั่นของพวกกลุ่มติดอาวุธที่มีสายสัมพันธ์กับอิหร่านในซีเรีย โดยบอกว่าเพื่อเอาคืนที่เล่นงานทหารสหรัฐฯ มาหลายหนแล้ว




อิสราเอลเปิดฉากโจมตีกาซาเพื่อแก้แค้นที่กลุ่มนักรบฮามาสซึ่งเป็นผู้ปกครองฉนวนกาซา บุกข้ามแดนเข้าไปสังหารพลเรือนราว 1,200 คนในภาคใต้อิสราเอล อีกทั้งจับตัวประกันกลับไปกาซาราว 240 คนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่สร้างความเสียหายหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล

การถล่มโจมตีของอิสราเอลนับแต่นั้น รวมทั้งมาตรการปิดล้อมอย่างเข้มงวด ตลอดจนสั่งให้ชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพลงไปทางตอนใต้ ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 11,000 คน ซึ่งราว 40% เป็นเด็ก ขณะที่กว่าครึ่งของประชากร 2.3 ล้านคนของฉนวนกาซากลายเป็นคนไร้บ้าน และเกิดวิกฤตทางมนุษยธรรมอย่างร้ายแรงที่ยังความสลดใจให้ผู้คนทั่วโลก

อิสราเอลยังเปิดฉากใช้กองทหารภาคพื้นดินบุกกาซาเมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเน้นหนักที่การปิดล้อมและตัดขาดเมืองกาซาซิตี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานสำคัญที่สุดทางด้านเหนือของกาซา เวลานี้การสู้รบระหว่างทหารยิวกับพวกฮามาสซึ่งถูกระบุว่าได้สร้างเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินอันกว้างขวางซับซ้อนข้างใต้กาซาซิตี้ กระจุกตัวอยู่รอบๆ โรงพยาบาลอัลชีฟา อันเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในเมืองนี้และในฉนวนกาซา และมีพลเรือนหลายพันคนหลบภัยสงครามอยู่

อิสราเอลกล่าวหาโดยยังไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันว่า โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าฮามาสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ พร้อมกับระบุว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการและโครงสร้างพื้นฐานทางทหารอื่นๆ ของฮามาสไม่ว่าจะเป็นในโรงพยาบาลซึ่งอยู่บนดินและส่วนที่อยู่ใต้ดินลงไป ทว่า ฮามาสและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

ในตอนเช้าวันจันทร์ (13) อัชราฟ อัล-กิดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกาซาที่อยู่ภายในโรงพยาบาลอัลชีฟา เผยว่า รถถังอิสราเอลได้มาจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล

ก่อนหน้านี้อิสราเอลประกาศให้พลเรือนออกจากโรงพยาบาลและให้แพทย์อพยพผู้ป่วยไปที่อื่น และบอกว่า พยายามอพยพทารกออกจากแผนกทารกแรกเกิด รวมทั้งยังนำเชื้อเพลิง 300 ลิตรไปวางให้ที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล แต่ถูกฮามาสสกัด

ทว่า กิดรายืนยันว่า ไม่ได้ปฏิเสธเชื้อเพลิงของอิสราเอล ทว่าเชื้อเพลิง 300 ลิตรใช้สำหรับเครื่องปั่นไฟของโรงพยาบาลได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็หมดแล้ว และโรงพยาบาลต้องการเชื้อเพลิงวันละ 8,000-10,000 ลิตร ซึ่งที่ผ่านมาจัดส่งโดยคณะกรรมการกาชาดหรือหน่วยงานบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ

เจ้าหน้าที่อิสราเอลคนหนึ่งโต้แย้งว่า เชื้อเพลิง 300 ลิตรสามารถใช้ได้หลายชั่วโมง เนื่องจากตอนนี้มีเพียงห้องฉุกเฉินเท่านั้นที่ยังเปิดทำการ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงว่า จากข้อมูลจนถึงวันอาทิตย์มีทารกในตู้อบในโรงพยาบาลอัลชิฟาเสียชีวิต 3 คน จากทั้งหมด 45 คน

นพ.อาเหม็ด เอล โมคาลลาลาติ ศัลยแพทย์ของอัลชีฟา เผยว่า การทิ้งระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำทารกที่คลอดก่อนกำหนดไปไว้บนเตียงปกติและใช้กระแสไฟฟ้าที่มีเพียงน้อยนิดทำให้ทารกเหล่านั้นอุ่น เขายังคาดว่า จะมีทารกเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน

ขณะที่ ยูซูฟ อาบู ริช รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขของรัฐบาลฮามาส บอกว่า มีทารกคลอดก่อนกำหนด 6 คนและผู้ป่วยอื่นๆ อีก 9 คนในแผนกวิกฤตของโรงพยาบาลอัลชีฟาเสียชีวิตเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า และสำทับว่า ขณะนี้โรงพยาบาลทั้งหมดทุกๆ แห่งซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของกาซาไม่สามารถให้บริการได้อีกต่อไป

ด้าน เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า อัลชีฟาไม่อาจทำงานในสภาพเป็นโรงพยาบาลอีกต่อไปแล้ว และเรียกร้องว่า โลกต้องไม่อยู่นิ่งเงียบ ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งที่ควรเป็นสถานที่ปลอดภัย กลับกลายเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนเสียชีวิตและสิ้นหวัง

ขณะที่หน่วยงานของ WHO ในปาเลสไตน์เตือนว่า ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ 3,000 คนหลบภัยในโรงพยาบาลแห่งนี้โดยไม่มีเชื้อเพลิง น้ำ หรืออาหาร

การสู้รบขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่าเดือนแล้วคราวนี้ ทำให้โลกยิ่งแตกแยก โดยหลายประเทศมองว่า แม้ฮามาสโจมตีอย่างโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่อิสราเอลใช้ในการตอบโต้ที่ทำให้พลเรือนมากมายล้มตายในฉนวนกาซาที่แออัดและถูกปิดล้อมเบ็ดเสร็จ

ที่ทำการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทั่วเอเชียพากันลดธงลงครึ่งเสาในวันจันทร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยืนสงบ 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยให้แก่เพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตในกาซา

แต่อิสราเอลยังยืนกรานว่า ต้องทำลายล้างฮามาสและจะไม่ยอมหยุดยิง เนื่องจากจะเท่ากับเปิดโอกาสให้ฮามาสรวบรวมกำลังกลับมาโจมตีใหม่ ซึ่งเป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา แม้ในเวลาต่อมาวอชิงตันจะพยายามกดดันมากขึ้นให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนก็ตาม

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ซีบีเอส นิวส์ว่า อเมริกาไม่ต้องการเห็นการยิงต่อสู้กันในโรงพยาบาล ที่ผู้บริสุทธิ์และผู้ป่วยอยู่ท่ามกลางสมรภูมิการสู้รบ และได้พูดคุยกับกองทัพอิสราเอลในเรื่องนี้แล้ว

ด้านโจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงเรียกร้องให้อิสราเอลแสดงความอดกลั้นสูงสุด และประณามฮามาสที่ใช้โรงพยาบาลและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม ทั้งตัวเขาและอียูถูกติเตียนว่าจนถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เคยเอ่ยปากประณามพฤติการณ์ของอิสราเอลแต่อย่างใด

นอกจากนั้น ยังมีความกังวลว่าความขัดแย้งนี้อาจลุกลามออกนอกกาซา หลังจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเช่นเดียวกับฮามาส ยิงขีปนาวุธตอบโต้กับอิสราเอล และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่เตหะรานสนับสนุนในอิรักและซีเรียโจมตีกองกำลังอเมริกาด้วยโดรนและจรวดอย่างน้อย 40 ระลอกในแต่ละประเทศ และอเมริกาตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศกลุ่มติดอาวุธที่เตหะรานสนับสนุนในซีเรียเมื่อวันอาทิตย์

ในส่วนตัวประกันนั้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับสื่ออเมริกันว่า อาจมีข้อตกลงปล่อยตัวประกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวกับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่า มีการเจรจาอย่างจริงจังเกี่ยวกับข้อตกลงที่เป็นไปได้ แต่ขอไม่พูดถึงรายละเอียดเช่นเดียวกัน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ในกาซากล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายเตะถ่วงการเจรจาปล่อยตัวประกัน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น