ทหารอเมริกาจะไม่เข้าประจำการในกาซา ในระหว่างหรือหลังจากความขัดแย้งขั้นปัจจุบันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ จากคำชี้แจงของทำเนียบขาว ปฏิเสธรายงานข่าวของบลูมเบิร์กก่อนหน้านี้ ที่บ่งชี้ว่าอเมริกาอาจส่งกำลังพลเข้าไปฉนวนแห่งนี้ในภารกิจรักษาสันติภาพ
ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (1 พ.ย.) จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ถูกถามกรณีที่มีข่าวว่ากองกำลังอเมริกาอาจถูกใช้เข้าไปรักษาเสถียรภาพแก่สถานการณ์ในฉนวนกาซา
ในเรื่องนี้เขาตอบว่า "ไม่มีแผนหรือความตั้งใจส่งทหารสหรัฐฯ ไปยังภาคสนามในกาซา ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต" เขากล่าว "แต่เรากำลังพูดคุยกับเหล่าพันธมิตรของเราเกี่ยวกับความเป็นไปของฉนวนกาซา ตามหลังความขัดแย้ง"
เคอร์บี ระบุต่อว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณา "รูปแบบบางอย่างการปรากฏตัวของนานาชาติ" หลังการสู้รบในฉนวนกาซาเบาบางลง แต่เน้นว่ายังไม่มีการตัดสินใจในประเด็นนี้
ความเห็นของโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้ว่า วอชิงตันกับอิสราเอลกำลังหารือกันเกี่ยวกับการอนุมัติให้ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคภายใต้การสนับสนุนจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส เข้าดูแลฉนวนกาซาเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม รายงานของบลูมเบิร์กระบุว่าแผนดังกล่าวยังคงอยู่ในขั้นแรกๆ เท่านั้น และมีทางเลือกอื่นอีกอย่างน้อย 2 ทางเลือกที่กำลังถูกพิจารณาเช่นกัน ในนั้นรวมถึงเกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ
แม้ เคอร์บี ปฏิเสธแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังรักษาสันติภาพสหรัฐฯ แต่เขาได้ส่งเสียงไปในทิศทางเดียวกับทำเนียบขาว ที่เน้นย้ำก่อนหน้านี้ว่า "ไม่ควรปล่อยให้ฮามาสมีอนาคตในการปกครองฉนวนกาซาอีกต่อไป" พร้อมกับแสดงจุดยืนสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในการกำจัดนักรบกลุ่มนี้ และพอถูกถามเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฉนวนปาเลสไตน์ในลำดับถัดไป เคอร์บีกล่าวว่า "พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่มีคำตอบทั้งหมด" แต่เน้นย้ำว่า "ไม่ว่ามันจะเป็นไปแบบไหนก็ตาม มันไม่อาจเป็นฮามาส"
สงครามล่าสุดในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาหลายทศวรรษ เริ่มต้นจากการที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมข้ามพรมแดนเข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันไปกว่า 200 คน ในเหตุโจมตีครั้งนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของประเทศ
นับตั้งแต่นั้น อิสราเอลแก้แค้นด้วยการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซา ดินแดนของชาวปาเลสไตน์ ที่มีประชากรพักอาศัย 2.3 ล้านคน อย่างไม่รามือ สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 9,061 คน ในนั้น 3,760 รายเป็นเด็ก และเป็นผู้หญิงอีก 2,326 คน
กองทัพอิสราเอลประกาศกร้าวว่าปฏิบัติการของพวกเขาสามารถลากยาวต่อไปอีกหลายเดือน แม้มีเสียงเตือนจากองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมเลวร้าย
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/บลูมเบิร์ก)