กองทหารอิสราเอลสู้รบกับพวกนักรบฮามาสตามซากอาคารต่างๆ ที่ถูกระเบิดถล่มยับเยินในบริเวณตอนเหนือของฉนวนกาซาเมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) โดยค่อยๆ รุกคืบเข้าใกล้โรงพยาบาลใหญ่ 2 แห่ง ขณะที่ชะตากรรมของพลเรือนในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมหนาแน่นแห่งนี้เลวร้ายลงเรื่อยๆ เวลาเดียวกัน มีรายงานว่าความพยายามของนานาชาติอาจใกล้บรรลุผล ในการผลักดันให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม 3 วัน รวมทั้งอนุญาตให้ส่งเชื้อเพลิงปริมาณไม่มากนักเข้าสู่กาซาเป็นครั้งแรกนับจากสงครามปะทุ แลกเปลี่ยนกับการที่ฮามาสปล่อยตัวประกันกว่า 10 คน
เมื่อวันพฤหัสบดี (9) ยังคงมีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนกำลังหลบหนีออกจากพื้นที่ตอนเหนือของกาซาซึ่งเกิดการสู้รบภาคพื้นดิน ลงมายังทางตอนใต้ตามเส้นทางเลียบชายแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย หลังจากอิสราเอลสั่งให้พวกเขาอพยพภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน ชาวเมืองหลายรายระบุ
ทว่ามีอีกจำนวนมากซึ่งพำนักอาศัยในทางตอนเหนือต่อไป โดยพากันเข้าไปอยู่กันแน่นขนัดใน 2 โรงพยาบาลใหญ่ในเมืองกาซาซิตี้ นั่นคือ โรงพยาบาลชีฟา และโรงพยาบาลอัล-คุดส์ ขณะที่การสู้รบภาคพื้นดินเกิดขึ้นใกล้ๆ รอบๆ ตัวพวกเขา เวลาเดียวกับที่อิสราเอลก็ถล่มโจมตีหนักหน่วงยิ่งขึ้นจากทางอากาศ
อิสราเอลระบุว่า พวกฮามาสมีศูนย์บัญชาการหลายแห่งฝังตัวอยู่ในโรงพยบาลเหล่านี้
โมฮัมเหม็ด อาบู เซลเมีย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชีฟา เปิดเผยว่า ทหารอิสราเอลที่สู้รบอยู่ในกาซาซิตี้อยู่ห่างจากโรงพยาลเพียง 3 กิโลเมตร
แม้ความเคลื่อนไหวของกองทัพยิวยังคลุมเครือ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลหลายรายระบุว่า กาซาซิตี้ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซาคือเป้าหมายหลักของปฏิบัติการบดขยี้ฮามาส เนื่องจากเมืองนี้เป็นที่ตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางทหารหลักของฮามาสที่รวมถึงเครือข่ายอุโมงค์อันคดเคี้ยว
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ศูนย์บัญชาการหลักและผู้นำอาวุโสของฮามาสซ่อนอยู่ในและใต้โรงพยาบาลชีฟา ทว่า ฮามาสและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปฏิเสธ พร้อมระบุว่า ยิวใช้ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการโจมตีโรงพยาบาล
วันพุธ โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงว่า กองทัพอิสราเอลได้กระชับการปิดล้อมกาซาซิตี้ ควบคู่กับการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องและการรุกภาคพื้นดินเข้าสู่กาซาเพื่อกวาดล้างฮามาสที่ส่งมือปืนบุกข้ามแดนลอบโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,400 คนในอิสราเอล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานในวันพฤหัสบดี ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากสงครามครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,800 คน
วันเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ย้ำว่า อิสราเอลจะไม่หยุดยิง นอกจากฮามาสปล่อยตัวประกันที่จับไปกว่า 240 คน
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่อียิปต์ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนักการทูตตะวันตกเผยในวันพฤหัสฯว่า ความพยายามของนานาชาติในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม 3 วัน รวมทั้งอนุญาตให้ส่งเชื้อเพลิงปริมาณไม่มากนักเข้าสู่กาซาเป็นครั้งแรกนับจากสงครามปะทุ แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวประกันกว่า 10 คน ใกล้จะบรรลุผล
ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้เป็นผลจากการเจรจาของอเมริกา อียิปต์ และกาตาร์ กับฮามาส ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชี้ว่า อิสราเอลพิจารณาระยะเวลาหยุดยิงโดยอิงกับตัวประกันที่จะได้รับอิสรภาพ และอาจมีการใช้สูตรนี้ในการเจรจาหยุดยิงครั้งต่อๆ ไป
นอกจากนั้น ขณะที่สงครามทวีความรุนแรงขึ้น การหารือเกี่ยวกับอนาคตที่เป็นไปได้ของกาซาหลังความขัดแย้งยุติยิ่งเข้มข้นขึ้นเช่นกันหลังจากเนทันยาฮูประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่า อิสราเอลจะเข้าควบคุมเรื่องความมั่นคงทั้งหมดของกาซาไม่มีกำหนด แต่ต่อมาหลังจากวอชิงตันออกมาคัดค้านการประกาศดังกล่าว พวกเจ้าหน้าที่ยิวหลายคนก็พยายามชี้แจงว่า อิสราเอลไม่มีเจตนายึดครองกาซาหลังสงคราม
วันพุธ จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงว่า มีความเป็นไปได้ที่กองกำลังอิสราเอลอาจคงอยู่ในกาซาอย่างน้อยระยะหนึ่งเพื่อจัดการผลพวงจากสงครามและสถานการณ์ด้านความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม สำหรับระยะยาว แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงจากโตเกียวในวันเดียวกันว่า หลังสงครามสิ้นสุด อาจมีความจำเป็นต้องมีช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน แต่การปกครองหลังจากนั้นต้องมีปาเลสไตน์เป็นแกนนำ และกาซารวมเข้ากับเวสต์แบงก์โดยอยู่ภายใต้องค์การบริหารปาเลสไตน์ (พีเอ) ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนยาวนานของอเมริกาที่เรียกร้องการแก้ปัญหาผ่านแนวทางสองรัฐคือ รัฐชาวยิวและรัฐชาวอาหรับ
ด้านพีเอที่ปกครองตนเองโดยจำกัดในบางส่วนของเวสต์แบงก์ที่เป็นเขตยึดครองของอิสราเอล ระบุว่า กาซาต้องเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
ทว่า เอซซาต อัล-เรชก์ สมาชิกอาวุโสของฮามาสที่ปกครองกาซาในขณะนี้ ประกาศว่า มหาอำนาจทั่วโลกไม่อาจกำหนดเงื่อนไข หรือไปทำความตกลงตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดปกครองชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ คาลิล อัล-เฮย์ยา สมาชิกในคณะผู้นำฮามาส ให้สัมภาษณ์นิวยอรก์ไทมส์ว่า การโจมตีอิสราเอลมีเป้าหมายเพื่อทำลายสถานะดั้งเดิมและเริ่มต้นการต่อสู้บทใหม่กับยิว
ส่วน ซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้บัญชาการฮามาสที่ลี้ภัยอยู่ เปิดเผยกับสถานีอัล-อัคซอ ทีวีของฮามาสเมื่อวันพุธว่า ยิ่งทหารอิสราเอลบุกลึกเข้าไปในกาซาเท่าไหร่ก็จะยิ่งเผชิญการต่อต้านและสูญเสียหนักขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี วันเดียวกันนั้น พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี หัวหน้าโฆษกกองทัพอิสราเอล อ้างว่า ฮามาสสูญเสียการควบคุมพื้นที่ตอนเหนือของกาซาแล้ว นอกจากนั้นทหารช่างอิสราเอลยังใช้ระเบิดทำลายอุโมงค์ 130 แห่งของเครือข่ายอุโมงค์ใต้กาซา
ฮาการีเสริมว่า พลเรือนปาเลสไตน์ 50,000 คนหนีออกจากตอนเหนือของกาซาระหว่างช่วงเวลา 4 ชั่วโมงวันพุธที่อิสราเอลให้โอกาสระหว่างการอพยพกับการติดอยู่ในวงล้อมความรุนแรง รวมแล้วมีชาวปาเลสไตน์กว่า 1.5 ล้านคนที่หนีไปหาที่ปลอดภัยทางใต้ของฉนวนกาซา ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้ว ด้านใต้ของดินแดนนี้ก็ปราศจากความปลอดภัย เนื่องจากอิสราเอลยังคงโจมตีสิ่งที่อ้างว่า เป็นเป้าหมายฮามาสทั่วทั้งฉนวนกาซาไม่หยุดยั้ง
นอกจากนั้น สำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) ซึ่งยืนยันการเปิดเผยของฮาการี ยังระบุว่า มีการโจมตีและการปะทะใกล้ทางหลวงสายหลักของกาซาซึ่งอิสราเอลกำหนดให้เป็นเส้นทางอพยพลงใต้ และพลเรือนส่วนใหญ่เดินเท้าพร้อมสมบัติเท่าที่สามารถขนไปได้ หลายคนอุ้มลูกหรือเข็นเกวียนที่มีผู้สูงวัย
โอซีเอชเอสำทับว่า ผู้มาใหม่จากทางเหนือต้องเบียดเสียดอยู่ในบ้านร่วมกับครอบครัวอื่นๆ หรือในโรงเรียนของยูเอ็นที่แปลงสภาพเป็นที่หลบภัยที่คนนับแสนหลบภัยอยู่ และในที่หลบภัยแห่งหนึ่ง ประชาชน 600 คนมีห้องน้ำใช้เพียงห้องเดียว
ทางด้านกระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนจากการโจมตีบ้านหลังหนึ่งใกล้โรงพยาบาลทางเหนือของค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียเมื่อวันพุธ ซึ่งหากรายงานนี้ได้รับการยืนยัน จะถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ค่ายผู้ลี้ภัยใหญ่ที่สุดในกาซาแห่งนี้ถูกโจมตีในรอบหนึ่งสัปดาห์
โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประณามการทิ้งระเบิดถล่มกาซาว่า การลงโทษพลเรือนปาเลสไตน์แบบเหมารวมของอิสราเอลถือเป็นอาชญากรรมสงคราม เช่นเดียวกับการบังคับพลเรือนอพยพโดยผิดกฎหมาย
องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนเมื่อวันพุธว่า ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์ที่มีพลเรือนกระจุกอยู่หนาแน่นเกินไป และระบบสาธารณสุข ประปา และสุขาภิบาลหยุดชะงักกำลังทำให้เกิดอันตรายใหม่คือ การระบาดอย่างรวดเร็วของโรคติดเชื้อ โดยนับจากกลางเดือนตุลาคมพบผู้ป่วยท้องร่วงกว่า 33,551 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ยังคงมีความพยายามฟื้นการส่งตัวชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ถือสองสัญชาติออกจากกาซาเข้าสู่อียิปต์ หลังจากกระบวนการนี้หยุดชะงักไป โดยฮามาสกล่าวหาอิสราเอลไม่ยอมอนุมัติรายชื่อผู้บาดเจ็บที่ต้องอพยพ
โอซีเอชเอยังเปิดเผยว่า รถบรรทุกกว่า 100 คันลำเลียงความช่วยเหลือจากอียิปต์เข้าสู่กาซาเมื่อวันพุธ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 756 คันนับจากปฏิบัติการนี้เริ่มต้นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับความช่วยเหลือปกติที่ส่งให้กาซาช่วงสองวันก่อนเกิดสงคราม
ที่ปารีสมีการจัดประชุมที่มีชาติอาหรับ มหาอำนาจตะวันตก สมาชิกกลุ่มจี20 และองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น แพทย์ไร้พรมแดน เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับมาตรการบรรเทาทุกข์ในกาซา ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งเส้นทางทางทะเลเพื่อจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา และหาวิธีอพยพผู้บาดเจ็บทางเรือ
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)