ระเบียบโลกปัจจุบันที่นำโดยสหรัฐฯ "กำลังหมดแรง" แต่วอชิงตันจะสร้างระบบใหม่ขึ้นมาแทน จากคำพูดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระหว่างปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุนเมื่อวันเสาร์ (21 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฝ่ายตรงข้าม พวกผู้นำรัสเซียและจีนกลับมองเป็นอย่างอื่น
ระหว่างกล่าวปราศรัยในวอชิงตัน พูดโอ้อวดว่าเขาได้โน้มน้าวให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่งมอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครน และลงนามในข้อตกลงทางรางและท่าเรือกับ อียู อินเดีย และซาอุดีอาระเบีย ระหว่างร่วมประชุมซัมมิตในนิวเดลี เมื่อเดือนที่แล้ว
ไบเดน กล่าวว่า "ดังนั้น ผมคิดว่าเรามีโอกาสดีในการทำสิ่งต่างๆ ถ้ากล้าหาญมากพอและมั่นใจในตัวเองมากพอในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของโลก ในหนทางต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ "เราอยู่ในช่วงเวลาหลังสงครามมานนาน 50 ปี ซึ่งมันได้ผลเป็นอย่างดี แต่มันกำลังหมดแรงแล้ว มันกำลังหลุดกระแส ในความรู้สึก เราต้องการระเบียบโลกใหม่"
ระเบียบโลกที่ปรากฏขึ้นตามหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นแบบ 2 ขั้ว โดยสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต แย่งชิงอิทธิพลและความเหนือกว่าในด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต นำมาซึ่งระเบียบโลกขั้วเดียวที่สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียว ทั้งนี้หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทาง จอร์จ เอช ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีอเมริกา ณ ขณะนั้น ประกาศชัยชนะในสงครามเย็นและพรรณนาเกี่ยวกับ "ระเบียบโลกใหม่" ระหว่างแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาในปี 1991
ปัจจุบัน หรือ 3 ทศวรรษต่อมา ด้วยที่วอชิงตันกำลังดิ้นรนหาเงินสนับสนุน 2 สงครามในต่างแดน ความเป็นเจ้าโลกของอเมริกาจึงมีความอุ่นใจน้อยลง เศรษฐกิจของจีนที่เคยรั้งอันดับ 11 ในช่วงปี 1991 เวลานี้กลายมาเป็นเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ปักกิ่งกำลังยกระดับคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเองและปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เคยระบุในหลายๆ โอกาส ว่าตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังเสื่อมถอย เช่นเดียวกับกล่าวยกย่องการโผล่ขึ้นมาของโลกหลายขั้ว ซึ่งประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะถูกดูแลโดยกฎหมายและสนธิสัญญาต่างๆ มากกว่า แทนที่จะเป็นกฎระเบียบที่บังคับใช้โดยสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แหงรัสเซีย เคยพูดยาวเหยียดเกี่ยวกับการสร้างระเบียบโลกหลายขั้ว โดยให้คำจำกัดความมันว่าเป็นระเบียบโลกที่รัฐแห่งอารยธรรมทั้งหลายแต่ละรัฐมีสิทธิเสรีในการแสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง เป็นอิสระจากมหาอำนาจที่หนือกว่า อย่างเช่นสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน และพันธมิตรของเขาในกลุ่ม BRICS รวมทั้งกลุ่มประเทศโลกซีกใต้ (GLOBAL SOUTH) ล้วนแต่มีเป้าหมายนี้ร่วมกัน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)