เอเจนซีส์ - นักวิทยาศาสตร์ NASA กำลังอยู่ในแผนอาร์มาเก็ดดอนขั้นสุดท้ายเพื่อทำให้โลกพ้นจากการโดนดาวแอสเตอรอยด์ หรือดาวเคราะห์น้อยชื่อ Bennu ที่มีขนาดใหญ่เท่าตึกเอ็มไพร์สเตทที่คาดว่าจะเข้ามาพุ่งชนโลกในอีก 159 ปีข้างหน้า และการพุ่งชนมีผลเท่ากับความแรงของระเบิดนิวเคลียร์ 24 เท่า NASA นำชิ้นส่วนตัวอย่าง Bennu ขนาด 8.8 ออนซ์เดินทางจากอวกาศถึงทะเลทรายรัฐยูทาห์เช้าพรุ่งนี้ (23 ก.ย) เพื่อทำการศึกษา
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (21 ก.ย.) ว่า ยานอวกาศ OSIRIS-Rex ของ NASA ที่ถูกโลกเหวี่ยงในวันอาทิตย์ (17) คาดว่าจะนำตัวอย่างชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อย Bennu ซึ่งถือเป็นดาวแอสเตอรอยด์ใกล้โลก (near-Earth asteroid) กลับมาสู่โลกในไม่ช้า
และหากเป็นไปตามแผนยาวอวกาศจะทำการปล่อยแคปซูลที่เก็บรวบรวมตัวอย่างหินดาวเคราะห์น้อย และดินจำนวน 8.8 ออนซ์จากอวกาศ และมีกำหนดจะลงสู่พื้นโลกด้วยบอลลูนกลางทะเลทรายรัฐยูทาห์ในวันเสาร์ที่ 23 ก.ย. โดยคาดว่าจะเข้าสู่บรรยากาศโลกในเวลา 10.42 น.ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ด้วยความเร็ว 27,650 ไมล์/ชม. และจะเดินทางถึงรัฐยูทาห์ภายใน 13 นาทีหลังจากนั้น
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า กำหนดการทัชดาวน์ของแคปซูลคาดว่าจะเป็นเวลาราว 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นรัฐยูทาห์
และหลังจากปล่อยแคปซูลที่มีขนาดเท่าตู้เย็นขนาดมินิแล้ว ยานอวกาศ OSIRIS-Rex จะท่องระบบสุริยะต่อไปเพื่อจับตาดาวเคราะห์น้อย Apophis ต่อไป
เดลีเมลและเมโทรของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ NASA กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมตัวขั้นสุดท้ายของแผนอาร์มาเก็ดดอนในการรับมือเหตุการณ์ที่ดาวเคราะห์น้อย Bennu จะทำการพุ่งชนโลก ซึ่งถึงแม้จะมีความเป็นไปได้น้อยหรือราว 1 ใน 2,700
แต่หากทว่าถ้าเกิดผู้เชี่ยวชาญได้คำนวณว่า Bennu ที่มีขนาดเท่าตึกเอ็มไพร์สเตทจะที่เข้าใกล้โลกทุก 6 ปีนั้นจะพุ่งเข้าชนโลกในวันที่ 24 ก.ย. ปี 2182 หรืออีก 159 ปีข้างหน้า
และผลกระทบกับโลกที่โดนดาวเคราะห์ Bennu พุ่งชนจะไม่ต่างจากเหมือนโดนระเบิดนิวเคลียร์ 24 เท่า หรือราว 1.2 กิกะตันทีเดียว
เดลีเมลชี้ว่า Bennu ถือเป็น 1 ใน 2 ที่มีความอันตรายมากที่สุดกับโลกในเวลานี้
ผู้เชี่ยวชาญ NASA ประจำ Jet Propulsion Laboratory ดาวีเดอ ฟาร์น็อกเคีย (Davide Farnocchia) เปิดเผยกับวารสารวิชาการ Science ว่า
ในการที่จะทำให้มนุษย์ยังคงอยู่ยาวนานต่อไป NASA จะทำการคำนวณความเสี่ยงครั้งสุดท้ายต่อวงโคจรของ Bennu ระหว่างที่ดาวแอสเตอรอยด์กำลังเดินทางเข้าใกล้โลกในปี 2135 หรืออีก 47 ปีข้างหน้าก่อนที่มันอาจจะพุ่งชนหลังจากนั้น
เขากล่าวว่า “ในปี 2135 พวกเราจะได้รู้อย่างแน่นอน”