นั่งไม่ติด! นายพลแนะญี่ปุ่นต้องการ 'อาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ' ไว้ป้องปรามศัตรูในภูมิภาค

ญี่ปุ่นจำเป็นต้องพัฒนาภาคการอาวุธภายในประเทศ หากต้องการมอบความมั่นคงแก่ตนเอง จากคำแนะนำของนายพลระดับสูงรายหนึ่ง พร้อมชี้แนะว่าแต่ ณ ปัจจุบัน โตเกียวคงต้องพึ่งพิงอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ สำหรับป้องปรามคู่อริใดๆ ในภูมิภาค

พล.อ.โยชิฮิเดะ โยชิดะ ประธานคณะเสนาธิการแห่งกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิ เอเชีย เมื่อวันจันทร์ (28 ส.ค.) ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นต่างๆ ในด้านการป้องกันตนเองของโตเกียว โดยเฉพาะความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในด้านการทหารกับวอชิงตัน

"เราไม่อาจธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของญี่ปุ่น ด้วยศักยภาพปัจจุบันของเรา" นายพลรายนี้กล่าว พร้อมระบุว่า "อย่างแรกเลย เราต้องเสริมความเข้มแข็งทางรากฐานในด้านแสนยานุภาพการป้องกันตนเองของเรา เพื่อที่เราจะไม่ถูกประเมินต่ำไป อย่างที่สอง เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อสนับสนุนการป้องปรามอย่างครอบคลุม ในนั้นผ่านยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ"

ในการให้สัมภาษณ์กับนิกเกอิ เอเชีย พล.อ.โยชิดะ ได้อธิบายต่อว่า ญี่ปุ่นประสานงานทางการทูตอย่างแน่นแฟ้นกับสหรัฐฯ มานานกว่า 1 ทศวรรษ ในด้านการขยายขอบเขตร่มนิวเคลียร์ของอเมริกาเหนือญี่ปุ่น พร้อมเน้นว่าทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงหนึ่งในเดือนมิถุนายน สำหรับการแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติม ซ้อมรบร่วม และตอบสนองทางขีปนาวุธร่วมกัน

ญี่ปุ่นเป็นชาติเดียวในประวัติศาสตร์ที่เคยถูกโจมตีด้วยอาวุธปรมาณู โดยคราวนั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพสหรัฐฯ หย่อนระเบิดนิวเคลียร์ใส่เมืองฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 คร่าชีวิตผู้คนไป 126,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากนั้นระเบิดปรมาณูอีกลูก ถูกทิ้งลงในเมืองนางาซากิ ในวันที่ 9 สิงหาคม เข่นคร่าชีวิตผู้คน 80,000 ราย เกือบทั้งหมดเป็นพลเรือน

หลังเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ญี่ปุ่นกลายมาเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ หลังกองกำลังอเมริกาบุกยึดดินแดนของพวกเขาและเขียนรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพ ประเทศแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอเมริกาและมีกำลังพลสหรัฐฯ มากที่สุดในโลก และอยู่ภายใต้ร่มนิวเคลียร์ของวอชิงตันมาช้านาน ในขณะที่ร่มนิวเคลียร์ คือการที่สหรัฐฯ ให้คำรับประกันด้านความมั่นคงแก่ประเทศต่างๆ ที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และรัฐสมาชิกนาโตหลายประเทศ ต่างมีข้อตกลงแบบเดียวกัน

นายพลโยชิดะ ชี้ว่าญี่ปุ่นอยู่ในแนวหน้าของอินโด-แปซิฟิก และโตเกียวกับพันธมิตรจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อธำรงไว้ซึ่งระเบียบสากลบนพื้นฐานของหลักนิติรัฐ พร้อมกับส่งเสียงเตือนไปถึงพฤติกรรมยั่วยุใดๆ ของเกาหลีเหนือและจีน "สิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกำลังขับเคลื่อนแรงสนับสนุนของประชาชน ต่อการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารและยกระดับแสนยานุภาพการโจมตีตอบโต้ให้ดีขึ้น"

(ที่มา : นิกเกอิเอเชีย/อาร์ทีนิวส์)