ตำรวจบัลแกเรียเมื่อวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) กระทบกระทั่งกับบรรดาผู้สนับสนุนพรรค Vazrazhdane party ที่ออกมาประท้วงต่อต้านนโยบายโปรตะวันตก เรียกร้องรัฐบาลลาออก และปิดฐานทัพทหารของนาโต
บรรดาผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่คัดค้านจุดยืนของบัลแกเรีย ชาติสมาชิกอียู กรณีให้การสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซีย ออกมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา โบกธงชาติบัลแกเรียและธงชาติรัสเซีย เป่านกหวีดและเรียกร้องให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ในประเทศที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว 5 รอบ
หลายคนตะโกนว่า "ออกไป" ในขณะที่ตำรวจปราบจลาจลติดอุปกรณ์เต็มพิกัดถูกส่งเข้าคุ้มกันอาคารราชการทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงกระทรวงกลาโหม บริเวณที่มีผู้ประท้วงบางส่วนปาไข่เข้าใส่
ที่ผ่านมา บัลแกเรียเป็นหนึ่งในผู้จัดหาอาวุธป้อนแก่ยูเครน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังได้ยกเลิกมาตรการแบนนำเข้าธัญพืชจากยูเครนด้วย
"ชาวบัลแกเรียไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เราต้องการเป็นประเทศเป็นกลาง" เนลี ยูเลโควา นักธุรกิจหญิงวัย 60 ปีกล่าว เธอบอกว่าผู้คนชาวบัลแกเรียคัดค้านการส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน "ซึ่งรังแต่จะปลุกปั่นสงครามเพิ่มเติม"
ผู้ประท้วงบางส่วนชูป้ายข้อความ มีใจความว่า "เอาฐานทัพอเมริกาออกไป!" และ "บัลแกเรีย คือเขตแห่งสันติภาพ" อ้างถึงการเปิดฐานทัพทหารแห่งใหม่ในสมาชิกนาโตแห่งนี้
"คำสั่งล่าสุดที่มาจากสหรัฐฯ นายเหนือหัวของบัลแกเรีย คือ สำหรับบัลแกเรียแล้ว ให้สร้างฐานทัพทหารแห่งใหม่" คอสตาดิน คอสตาดินอฟ แกนนำพรรค Vazrazhdane party บอกกับฝูงชน "นาโต ออกไป"
พวกผู้ประท้วงเสร็จสิ้นการเดินขบวนบริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งที่อุทิศแด่กองทัพโซเวียต และปะทะกับตำรวจที่พยายามขัดขวางพวกเขาจากการพยายามเข้าใกล้อนุสาวรีย์แห่งนี้ ที่อยู่ระหว่างการรื้อถอน สืบเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
นัล บาลาบันสกา วิศวกรไฟฟ้าวัย 51 ปี เปิดเผยว่าเธอหวังว่าการประท้วงจะบีบให้รัฐบาลยอมลาออก
(ที่มา : รอยเตอร์)