แคนาดาและอินเดีย 2 ประเทศสำคัญที่สหรัฐฯ วาดหวังผูกพันให้อยู่ในกลุ่มพันธมิตรต่อต้านจีน เกิดแตกร้าวกันอย่างรุนแรง โดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแดนใบเมเปิลแดงเผย ออตตาวากำลังเร่งตรวจสอบข้อกล่าวหาที่น่าเชื่อถือซึ่งเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียกับการลอบสังหารผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ซึ่งมีฐานะเป็นพลเมืองชาวแคนาดา ขณะที่นิวเดลีปฏิเสธว่ข้อกล่าวหานี้ “ไร้สาระ” พร้อมขับนักการทูตแคนาดาออกนอกประเทศภายใน 5 วัน เป็นการตอบโต้ที่ออตตาวาขับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอินเดียก่อนหน้านั้น
ในวันจันทร์ (18 ก.ย.) นายกรัฐมนตรีทรูโด ออกคำแถลงฉุกเฉินแจ้งสภาผู้แทนราษฎรแคนาดาว่า การที่รัฐบาลต่างชาติเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเมืองแคนาดาเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างรับไม่ได้
คำแถลงดังกล่าวพาดพิงถึง ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ วัย 45 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าวัดซิกข์ในเขตเซอร์เรย์ เมืองแวนคูเวอร์ ซึ่งมีชาวซิกข์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
นิจจาร์ เป็นหนึ่งในแกนนำนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนให้ชาวซิกข์แบ่งแยกดินแดนออกจากอินเดีย และสถาปนารัฐของตนเองในชื่อ “คาลิสถาน” (Kalistan) ในพื้นที่ซึ่งอยู่ในรัฐปัญจาบ ทางภาคเหนือของอินเดียติดต่อกับพรมแดนปากีสถาน อันเป็นสถานที่ซึ่งศาสนาซิกข์ถือกำเนิดขึ้น ทั้งนี้ เขาถูกรัฐบาลอินเดียขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ก่อการร้ายมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียได้แถลงตอบโต้ในวันอังคาร (19) โดยบอกว่าได้เรียก คาเมรอน แมคเคย์ ข้าหลวงใหญ่ หรือก็คือเอกอัครราชทูตของแคนาดาเข้าพบ เพื่อแจ้งให้นักการทูตแคนาดาคนหนึ่งเดินทางออกจากอินเดียภายใน 5 วัน โดยที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อหรือตำแหน่งของนักการทูตคนดังกล่าว
คำแถลงของฝ่ายอินเดียยังระบุว่า การตัดสินใจนี้สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับการที่นักการทูตแคนาดาแทรกแซงกิจการภายในของอินเดีย อีกทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่อต้านอินเดีย
กระทรวงการต่างประเทศอินเดียสำทับว่า การกล่าวหาว่ารัฐบาลอินเดียพัวพันกับเหตุการณ์รุนแรงในแคนาดาเป็นเรื่องไร้สาระ และเป็นเรื่องของความต้องการที่จะเบี่ยงเบนความสนใจไปจากผู้ก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงคาลิสถาน ซึ่งแคนาดากำลังให้ที่พักพิง พร้อมกันนั้น อินเดียก็เรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาดำเนินการทางกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพทันทีกับกลุ่มต่อต้านอินเดียที่กำลังดำเนินงานอยู่ในแคนาดา
ทางด้านทรูโดนั้น เปิดเผยว่า ระหว่างที่เขาเดินทางไปร่วมประชุมซัมมิตกลุ่ม จี20 ที่กรุงนิวเดลี ของอินเดียระหว่างวันที่ 9-10 ที่ผ่านมา เขาได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย และเรียกร้องให้อินเดียร่วมมือกับแคนาดาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทว่า โมดีกลับแสดงความกังวลเกี่ยวกับการประท้วงเรียกร้องรัฐเอกราชของชาวซิกข์ในแคนาดา
แคนาดาเป็นประเทศที่มีชาวซิกข์พำนักอาศัยอยู่มากที่สุดนอกรัฐปัญจาบของอินเดีย โดยมีประชาชน 770,000 คนแจ้งว่า นับถือศาสนาซิกข์ในการทำสำมะโนประชากรของแดนใบเมเปิลแดงเมื่อปี 2021
ทั้งนี้ ชาวซิกข์จำนวนมากมีความพยายามเรียกร้องให้คาลิสถานแยกตัวเป็นเอกราชมานานหลายทศวรรษ และการก่อความไม่สงบของชาวซิกข์ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนในอินเดียในทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ก่อนที่อินเดียจะปราบปรามด้วยมาตรการความมั่นคงขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม อินเดียยังกังวลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะย้อนกลับมาอีก และจับตาเป็นพิเศษกับชาวซิกข์กลุ่มเล็กๆ ในออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา และอเมริกา ที่สนับสนุนการเรียกร้องแบ่งแยกดินแดน ตลอดจนจัดการชุมนุมประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตอินเดียเป็นระยะ
อเมริกาและออสเตรเลียแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งกับข้อกล่าวหาของแคนาดา ขณะที่อังกฤษเผยว่า ติดต่อใกล้ชิดกับแคนาดาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาร้ายแรงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม อังกฤษบอกว่าจะยังคงดำเนินการเจรจาทางการค้ากับอินเดียต่อไป โดยที่อังกฤษจะไม่นำเอาการเจรจาเรื่องการค้ามาผสมปนเปกับ “ประเด็นปัญหาอื่นๆ” โฆษกของนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ของอังกฤษ แถลงกับพวกผู้สื่อข่าว
อินเดียอ่อนไหวเป็นพิเศษกับผู้ประท้วงชาวซิกข์ในแคนาดา โดยนักวิเคราะห์อินเดียบางคนระบุว่า ออตตาวาไม่ยอมจัดการเรื่องนี้ เนื่องจากชาวซิกข์เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางการเมืองในแคนาดา
ขณะเดียวกัน ออตตาวาได้ระงับการเจรจาสนธิสัญญาการค้ากับอินเดียที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนนี้ หรือเพียง 3 เดือนหลังจากทั้งสองประเทศประกาศว่า ต้องการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นให้ได้ภายในปีนี้
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)